ใช้ให้ถูกใช้ให้เป็น ยาแก้ปวด/ยาคลายกล้ามเนื้อ (ตอนที่ 3)

ใช้ให้ถูกใช้ให้เป็น_ยาแก้ปวดยาคลายกล้ามเนื้อ-3

      

      กลุ่ม non-selective NSAIDs (ns-NSAIDs) ซึ่งออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Cycloxygenase (COX) ทั้ง COX-1 และ COX-2; และ กลุ่ม Coxibs หรือ COX-2 inhibitors ซึ่งยับยั้งเอนไซม์ COX-2 เด่นกว่า

      เนื่องจากกลุ่ม COX-2 inhibitors ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ COX-1 น้อย จึงเกิดผลข้างเคียงในระบบทางเดินอาหารน้อยกว่า แต่ทำให้เกิดผลเสียต่อระบบหลอดเลือดของหัวใจและสมองตามมา นอกจากนี้ยากลุ่ม COX-2 inhibitors นี้ยังมีราคาสูงกว่ากลุ่ม ns-NSAIDs

      ดังนั้น ก่อนใช้ยา NSAIDs ไม่ว่ากลุ่มใดจะต้องทราบถึงประสิทธิผลและความปลอดภัยของยาทั้ง 2 กลุ่มนี้ เพื่อที่จะได้เลือกใช้ยาให้เกิดประโยชน์และเหมาะสม มีความคุ้มค่า และความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ป่วยส่วน

      ยาในกลุ่ม COX-2 inhibitors มีประสิทธิผลในการบรรเทาปวดและลดการอักเสบทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้เท่าเทียมกับยาในกลุ่ม ns-NSAIDs และมีผลข้างเคียงต่อระบบอวัยวะต่างๆ ของร่างกายเช่นเดียวกับ ns-NSAIDs การใช้ยาจึงควรใช้ในขนาดน้อยที่สุดที่สามารถให้ผลการรักษาได้ดี (Minimum effective dose) และใช้ในช่วงเวลาสั้นที่สุด

      แม้ยาในกลุ่ม COX-2 inhibitors จะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหารทั้งที่กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กต่ำกว่า ns-NSAIDs แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติแผลในระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะผู้ป่วยสูงอายุ (อายุ 65 ปีหรือมากกว่า)

      และเนื่องจากแอสไพรินขนาดต่ำ (75- 325 มิลลิกรัมต่อวัน) สามารถลดคุณสมบัติความปลอดภัยต่อทางเดินอาหาร (GI safety) ของยาในกลุ่ม COX-2 inhibitors ลง ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อผลข้างเคียงในระบบทางเดินอาหารซึ่งมีการใช้ COX-2 inhibitors อยู่ และมีการใช้แอสไพรินขนาดต่ำร่วมด้วย ควรพิจารณาให้ Proton pump inhibitors (PPI) เช่น ยา Esomeprazole ยา Lansoprazole ยา Omeprazole ยา Pantoprazole หรือ ยา Rabeprazole เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่อระบบทางเดินอาหารไว้ด้วย

      นอกจากนี้ ยาในกลุ่ม COX-2 inhibitors ยังมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนในระบบหลอดเลือดและหัวใจ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ บวมน้ำ หัวใจวาย โรคไต และโรคตับ ดังนั้น ก่อนใช้ยาในกลุ่มนี้จะต้องทำการประเมินความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในระบบหลอดเลือดและหัวใจของผู้ป่วยเสมอ

      ข้อห้ามในการใช้ยากลุ่ม COX-2 inhibitors

1. ผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในระบบหลอดเลือดและหัวใจ

2. ผู้ป่วยที่ใช้แอสไพรินขนาดต่ำเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด

3. ผู้ป่วยที่มีโรคทางอายุรกรรมซึ่งเป็นข้อห้ามต่อการใช้ NSAIDs เช่น โรคไต โรคหืด โรคถุงลมโป่งพอง และโรคตับ เป็นต้น

      อนึ่ง ยาอะเซตามีโนเฟนจะไม่ทำให้ปวดท้องและกระเพาะอักเสบเหมือนยา NSAIDs เช่น ยา Aspirin ยา Ibuprofen และยา Naproxen แต่อย่างใด อย่างไรก็ดี ยาอะเซตามีโนเฟนไม่สามารถใช้ลดอาการบวมได้เช่นเดียวกับยาNSAIDs

      

แหล่งข้อมูล:

  1. Pain Reliever. https://www.webmd.com/drugs/2/drug-224/pain-reliever-oral/details [2018, January 23].
  2. 10 things you should know about common pain relievers. https://www.health.harvard.edu/pain/12-things-you-should-know-about-pain-relievers [2018, January 23].
  3. คำแนะนำและข้อบ่งชี้การใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติที่มีราคาแพง กลุ่ม COX-2 Inhibitors. http://www.rcpt.org/index.php/cme/71-cme-interesting-conferences/354--cox-2-inhibitors.html [2018, January 23].