แบมบิวเทอรอล (Bambuterol)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาแบมบิวเทอรอล (Bambuterol หรือ Bambuterol hydrochloride หรือ Bambuterol HCl) เป็นยาในกลุ่ม เบต้า แอดริเนอร์จิก อโกนิสท์(Beta adrenergic agonist) ประเภทออกฤทธิ์นาน (Long-acting) ทางคลินิกใช้เป็นยาขยายหลอดลมและช่วยบำบัดอาการหอบหืด ยาแบมบิวเทอรอลมีลักษณะการออกฤทธิ์แบบที่เรียกว่า โปรดรัก(Prodrug)กล่าวคือ จะไม่ออกฤทธิ์ในการรักษาทันทีจนกระทั่งถูกเมตาโบไลซ์(Metabolize,กระบวนการทางเคมีที่มักใช้เอนไซม์เพื่อเปลี่ยนแปลงสารเคมีในร่างกายจากรูปแบบหนึ่งให้เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง)ในร่างกายและเปลี่ยนรูปเป็นยาที่ออกฤทธิ์ คือ Terbutaline

ยาแบมบิวเทอรอลถูกออกแบบเภสัชภัณฑ์เป็นยารับประทาน ซึ่งมีการ ดูดซึมของตัวยาจากระบบทางเดินอาหารเข้าสู่กระแสเลือดได้เพียงประมาณ 20 % จากนั้นตับจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีไปเป็นสารออกฤทธิ์ ร่างกายต้องใช้เวลานานประมาณ 21 ชั่วโมง เพื่อกำจัดยาแบมบิวเทอรอลในรูปของสารออกฤทธิ์ออกจากกระแสเลือดโดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะ

มีข้อห้ามใช้ยาแบมบิวเทอรอลกับผู้ป่วยที่มีสภาพตับผิดปกติอย่างรุนแรง สตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ และผู้ที่มีประวัติแพ้ยานี้ และ/หรือแพ้ส่วนประกอบของสูตรตำรับยานี้ นอกจากนี้ ยังต้องระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคไต เพราะไตเป็นอวัยวะที่คอยกำจัดยานี้ออกจากร่างกาย

ยาแบมบิวเทอรอลยังสามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายได้อีก อาทิเช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ ระบบการหายใจ ระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย รวมถึง สมดุลของอิเล็กโทรไลต์(Electrolyte)/สมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย

การใช้ยาแบมบิวเทอรอลต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น ห้ามผู้ป่วยปรับขนาดรับประทานยานี้ด้วยตนเอง

*กรณีเกิดข้อผิดพลาดทำให้ผู้ป่วยได้รับยานี้เกินขนาดสามารถสังเกตได้จากอาการดังต่อไปนี้ เช่น มีอาการปวดศีรษะต่อเนื่อง วิตกกังวล ตัวสั่น คลื่นไส้ เป็นตะคริว ชีพจรเต้นผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือเต้นเร็ว การช่วยเหลือคือ ต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที โดยการรักษาคือแพทย์จะทำการล้างท้องให้ผู้ป่วย ในกรณีที่มีอาการรุนแรง แพทย์อาจต้องให้ยาถ่านกัมมันต์ร่วมในการรักษาด้วย

ยาแบมบิวเทอรอลเป็นยาใช้ควบคุมและป้องกันการเกิดอาการหอบหืด แต่ไม่สามารถลดอาการหอบแบบเฉียบพลันได้ และการรับประทานยานี้ต้องอาศัยความต่อเนื่องจึงจะควบคุมอาการหอบหืดได้ ซึ่งคณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้ระบุให้ยาแบมบิวเทอรอลอยู่ในประเภทยาอันตราย โดยสามารถพบเห็นการจัดจำหน่ายยาชนิดนี้ภายใต้ชื่อการค้าว่า “Bambec”

แบมบิวเทอรอลมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

แบมบิวเทอรอล

ยาแบมบิวเทอรอลมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น

  • ใช้เป็นยาบำบัดและป้องกันอาการหอบหืด

แบมบิวเทอรอลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาแบมบิวเทอรอลมีกลไกการออกฤทธิ์โดย เมื่อเข้าสู่กระแสเลือด ตัวยาจะถูกตับเปลี่ยนไปเป็นตัวยาTerbutaline ซึ่งจะออกฤทธิ์ที่ตัวรับ(Receptor)ในระดับเซลล์หลอดลมที่เรียกว่า เบต้า แอดริเนอร์จิก รีเซ็ปเตอร์ (Beta adrenergic receptors) ทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบที่หลอดลม ส่งผลให้ช่องทางเดินหายใจเปิดกว้าง จึงช่วยบรรเทาอาการหอบหืดได้ตามสรรพคุณ

แบมบิวเทอรอลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาแบมบิวเทอรอลมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ที่มีส่วนประกอบของ Bambuterol HCl ขนาด 10 มิลลิกรัม/เม็ด

แบมบิวเทอรอลมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาแบมบิวเทอรอลมีขนาดรับประทาน เช่น

  • ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 6–12 ปี: รับประทานยาเริ่มต้นที่ 10 มิลลิกรัม วันละ1 ครั้งก่อนนอน อีก 1–2 สัปดาห์ต่อมา แพทย์อาจปรับขนาดรับประทานเป็น 20 มิลลิกรัม โดยสังเกตจากอาการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วย
  • เด็กอายุ 2–5 ปี: รับประทานยา 10 มิลลิกรัม วันละ1 ครั้งก่อนนอน
  • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึง ขนาดยานี้ ผลข้างเคียง และความปลอดภัยในการใช้ยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็ก จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป

อนึ่ง:

  • ยานี้ เป็นยาที่ใช้ควบคุมป้องกันอาการหอบหืดมิให้กำเริบ ผู้ป่วยจึงควรมียาบำบัดอาการหอบหืดแบบเฉียบพลันติดตัวเพื่อใช้ในกรณีที่ได้เกิดอาการขึ้นแล้ว

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่ เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาแบมบิวเทอรอล ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคตับ โรคไต รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาแบมบิวเทอรอลอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

กรณีที่ลืมรับประทานยาแบมบิวเทอรอล สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

แต่อย่างไรก็ดี การลืมรับประทานยาแบมบิวเทอรอลบ่อยครั้ง อาจทำให้อาการหอบหืดกลับมาเป็นใหม่ ซึ่งนอกจากไม่ทำให้อาการดีขึ้นแล้ว อาจทำให้อาการโรคกำเริบหรือแย่ลงกว่าเดิม

แบมบิวเทอรอลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาแบมบิวเทอรอลสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น

  • ผลต่อหัวใจ: เช่น ทำให้หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
  • ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ทำให้กล้ามเนื้อมีอาการสั่น/กล้ามเนื้อกระตุก เกิดตะคริว
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น เกิดอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ
  • ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น เกิดภาวะโปแตสเซียมในเลือดต่ำ น้ำตาลในเลือดสูง
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น มีอาการคลื่นไส้
  • ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ

มีข้อควรระวังการใช้แบมบิวเทอรอลอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาแบมบิวเทอรอล เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามปรับขนาดการใช้ยานี้ด้วยตนเอง
  • ห้ามใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์ และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร นอกจากมีคำสั่งแพทย์
  • ห้ามซื้อยานี้มาใช้เองโดยมิได้รับการตรวจคัดกรอง/การตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อน
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น เม็ดยาแตกหัก สีเม็ดยาเปลี่ยนไป
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคหัวใจล้มเหลว โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน
  • กรณีที่ใช้ยานี้แล้วควบคุมป้องกันอาการหอบหืดไม่ได้ผล เช่น มีอาการหอบหืดบ่อย ให้รีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาล เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
  • มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดทุกครั้ง
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาแบมบิวเทอรอลด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

แบมบิวเทอรอลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาแบมบิวเทอรอลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ยาแบมบิวเทอรอลร่วมกับยากลุ่ม Sympathomimetics อย่างเช่น Suxamethonium ซึ่งเป็นยาหย่อนกล้ามเนื้อ จะทำให้ระยะเวลาการหย่อนกล้ามเนื้อยาวนานขึ้นจนอาจเกิดอันตรายต่อกล้ามเนื้อ หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • ห้ามใช้ยาแบมบิวเทอรอลร่วมกับยากลุ่ม Corticosteroids , ยาขับปัสสาวะ หรือ ยากลุ่มอนุพันธ์แซนทีน(Xanthine derivatives) ด้วยจะทำให้ระดับเกลือโปแตสเซียมในเลือดต่ำ
  • ห้ามใช้ยาแบมบิวเทอรอลร่วมกับกลุ่มยา Non-selective beta-blockers ด้วยจะออกฤทธิ์ต่อต้านการทำงานซึ่งกันและกันจนด้อยประสิทธิภาพการรักษาจากยาทั้ง 2 กลุ่ม

ควรเก็บรักษาแบมบิวเทอรอลอย่างไร?

ควรเก็บยาแบมบิวเทอรอลภายใต้อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือรถยนต์ และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

แบมบิวเทอรอลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาแบมบิวเทอรอล ที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Bambec (แบมเบ็ก)AstraZeneca

อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ในต่างประเทศ เช่น Oxeol, Betaday, Abel, Asthafree, Baburol, Bamberol, Buterol, Venterol

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Bambuterol[2017,Aug5]
  2. https://www.medicines.org.uk/emc/medicine/9574[2017,Aug5]
  3. http://www.mims.com/philippines/drug/info/bambuterol?mtype=generic[2017,Aug5]
  4. http://www.medindia.net/doctors/drug_information/bambuterol.html[2017,Aug5]