เพนิซิลลิน จี (Penicillin G) หรือ เบนซิลเพนิซิลลิน (Benzylpenicillin)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ: คือยาอะไร?

ยาเพนิซิลลิน จี (Penicillin G) หรือ ยาเบนซิลเพนิซิลลิน (Benzylpenicillin) คือยาปฏิชีวนะใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียโดยฉีดเข้าทางหลอดเลือดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อก็ได้ ทั้งนี้ด้วยเหตุผลที่ยาเพนิซิลลิน จี ไม่สามารถทนต่อกรดในกระเพาะอาหารได้ดีนัก เราจึงไม่พบเห็นในรูปแบบของยารับประทาน

วงการแพทย์นำยาเพนิซิลลิน จี มารักษาเยื่อบุหัวใจอักเสบ การติดเชื้อแบคทีเรียที่เยื่อหุ้มสมอง/เยื่อหุ้มสมองอักเสบ การติดเชื้อที่ปอด/ปอดอักเสบ /ปอดบวม, โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, ตลอดจนภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด

มีการศึกษาเรื่องการกระจายตัวของยาเพนิซิลลิน จี เมื่อผ่านเข้ากระแสเลือด พบว่า เพนิซิลลิน จี จะเข้าจับกับพลาสมาโปรตีนประมาณ 60% และจะถูกเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีที่อวัยวะตับ ซึ่งร่างกายใช้เวลา 30 นาทีโดยประมาณก็สามารถขับยาเพนิซิลลิน จี จำนวน 50% ออกจากกระ แสเลือดและทิ้งไปกับปัสสาวะ

องค์การอนามัยโลกได้จัดให้เพนิซิลลิน จี เป็นยาจำเป็นขั้นพื้นฐานของชุมชน สำหรับประ เทศไทยก็ได้บรรจุยานี้ลงในบัญชียาหลักแห่งชาติเช่นกัน โดยการใช้ยาส่วนใหญ่จะพบเห็นที่สถานพยาบาลเท่านั้นเนื่องจากต้องใช้หัตถการทางการแพทย์ที่เหมาะสมตามมาตรฐานในการบริหารยา/ใช้ยากับผู้ป่วย

เพนิซิลลิน จี มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ)รักษาโรคอะไร?

เบนซิลเพนิซิลลิน

ยาเพนิซิลลิน จี มีสรรพคุณรักษาโรค/ข้อบ่งใช้: เช่น

  • รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ตอบสนองกับยานี้ (Susceptible infections)
  • รักษาเยื่อบุหัวใจอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial endocarditis)
  • รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่เยื่อหุ้มสมอง/ เยื่อหุ้มสมองอีกเสบ (Meningitis)
  • รักษาโรคปอดบวม (Pneumonia)
  • ป้องกันการติดเชื้อระหว่างการคลอด

เพนิซิลลิน จี มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาเพนิซิลลิน จี คือ ตัวยาจะหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย โดยตัวยาจะเข้าไปยับยั้งการสร้างสารเปบทิโดกลัยแคน (Peptidoglycan) ซึ่งเป็นตัวประกอบสำคัญของผนังเซลล์ในแบคทีเรีย จากการก่อกวนนี้ทำให้การสร้างผนังเซลล์ในแบคทีเรียหยุดชะงัก จึงไม่สามารถเจริญเติบโตหรือแพร่พันธุ์ได้และทำให้แบคทีเรียตายลงในที่สุด

เพนิซิลลิน จี มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาเพนิซิลลิน จี มีรูปแบบการจัดจำหน่าย: เช่น

  • ยาฉีดชนิดผง ขนาดความแรง 0.5, 1 และ 5 ล้าน ยูนิตสากล/ขวด

เพนิซิลลิน จี มีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

ยาเพนิซิลลิน จี มีขนาดการบริหารยา/การใช้ยา: เช่น

ก. สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียที่เยื่อบุหัวใจ/เยื่อบุหัวใจอักเสบ (Bacterial endocarditis): เช่น

  • ผู้ใหญ่: ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ 15 - 20 ล้านยูนิต/วันเป็นเวลา 4 สัปดาห์

ข. สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียที่เยื่อหุ้มสมอง/เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningococcal meningitis): เช่น

  • ผู้ใหญ่: ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ 24 ล้านยูนิต/วันโดยแบ่งฉีด 6 ล้านยูนิตทุก 4 ชั่งโมงเป็นเวลา14 วัน

ค. สำหรับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด /ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ (Septicemia): เช่น

  • ผู้ใหญ่: ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ 24 ล้านยูนิต/วันอาจทุก 4 - 6 ชั่วโมงหรือตามดุลพินิจของแพทย์ที่รวมถึงระยะเวลาในการใช้ยาด้วย

ง. สำหรับการติดเชื้อในปอด/ปอดบวม (Pneumonia): เช่น

  • ผู้ใหญ่: ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ 1 - 2 ล้านยูนิต/วันทุก 4 ชั่งโมงเป็นเวลา 7 - 14 วันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค

อนึ่ง: เด็ก: การใช้ยานี้ในเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก)ที่รวมถึงขนาดยาในกรณี ข้อ ก.- ง. ขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์โดยประเมินจากชนิดเชื้อแบคทีเรีย, ติดเชื้อกับอวัยวะอะไร, ความรุนแรงของอาการ, อายุ, และน้ำหนักตัวของเด็ก

จ. สำหรับโรคคอตีบ (Diphtheria): เช่น

  • ผู้ใหญ่: ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ 2 - 3 ล้านยูนิต/วันโดยแบ่งการฉีดยาทุกๆ 4 - 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 10 - 12 วัน
  • เด็ก: ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำหรือเข้ากล้ามเนื้อ 150,000 - 250,000 ยูนิต/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วันโดยแบ่งการให้ยาทุกๆ 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 - 10 วัน

ฉ.ใช้ป้องกันการติดเชื้อระหว่างการคลอด (Prevention of Perinatal Group B Streptococcal Disease): เช่น

  • หญิงตั้งครรภ์: ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำเริ่มต้นที่ 5 ล้านยูนิต เมื่อเริ่มเจ็บครรภ์คลอด แล้วฉีดยา 2.5 ล้านยูนิต ทุก 4 ชั่วโมง จนกระทั่งคลอด
  • อนึ่ง อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง การติดเชื้อสเตรปโตคอคคัสกรุ๊ป - บี ระหว่างตั้งครรภ์:

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาเพนิซิลลิน จี ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก /หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเพนิซิลลิน จี อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

เพนิซิลลิน จี มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาเพนิซิลลิน จี สามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง /อาการข้างเคียง) เช่น

  • อาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้ยาในผู้ป่วยบางราย
  • ลมพิษ
  • มีไข้
  • ปวดข้อ
  • มีผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง
  • ภาวะโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก
  • ไตอักเสบ
  • มีอาการชัก
  • เกิดพิษต่อประสาทส่วนกลาง เช่น อาการชา หรือรู้สึกแปลกๆที่มือ เท้า
  • เกล็ดเลือดต่ำ
  • ท้องเสีย
  • ลำไส้อักเสบ

มีข้อควรระวังการใช้เพนิซิลลิน จี อย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้เพนิซิลลิน จี เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ยานี้, แพ้ยาเพนิซิลลิน, หรือผู้ที่แพ้ยาในตระกูลเบต้า-แลคแตม(Beta lactam) เช่น เซฟาโลสปอริน (Cephalosporin), ก่อนการใช้ยานี้จึงควรสอบถามประวัติการใช้ยาโดยละเอียดจากผู้ป่วยเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยเอง
  • หากพบอาการเหล่านี้หลังใช้ยานี้ให้หยุดการใช้ยาทันทีแล้วรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลทันทีเช่น มีลมพิษ มีผื่นคันขึ้นเต็มตัว หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก ปวดท้องรุนแรง ท้องเสียอย่างมาก หรือคลื่นไส้-อาเจียนอย่างรุนแรง
  • ระวังการใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เพราะถึงแม้ว่าเพนิซิลลินจะจัดว่าปลอดภัยในผู้ป่วยกลุ่มนี้ แต่ก็ต้องระวังในเรื่องผลข้างเคียงที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วยเช่น มีอาการท้องเสียหรือผื่นคันขึ้นหลังการใช้
  • ยาเพนิซิลลิน จี อาจรบกวนผลการตรวจน้ำตาลในปัสสาวะของผู้ป่วยเบาหวานทำให้ผลการวิเคราะห์โรคคลาดเคลื่อน ดังนั้นระหว่างมีการใช้ยาเพนิซิลลิน จี ควรนำประวัติการใช้ยานี้มาประกอบในการพิจารณาวิเคราะห์ผลการตรวจปัสสาวะจากทางห้องปฏิบัติการทุกครั้ง
  • ระวังการใช้ยาเพนิซิลลิน จี ในขนาดสูงกับผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตผิดปกติ ด้วยอาจก่อให้ เกิดความเสี่ยงเกิดภาวะไตล้มเหลว/ ไตวาย หรือ ภาวะหัวใจล้มเหลว
  • ระหว่างการใช้ยาเพนิซิลลิน จี ต้องคอยควบคุมปริมาณเกลือโพแทสเซียมในกระแสเลือดให้อยู่ในระดับที่ปกติเสมอ
  • เฝ้าระวังการทำงานของไตและของระบบเลือดอย่างใกล้ชิดเมื่อใช้ยานี้
  • หลีกเลี่ยงการฉีดยานี้เข้าไขสันหลัง
  • การใช้ยาเพนิซิลลิน จี เป็นเวลานานอาจกระตุ้นให้เชื้อโรคกลับลุกลามจากเชื้อดื้อยา จึงควรเฝ้าระมัดระวัง
  • หยุดการใช้ยานี้ทันทีถ้าพบอาการผื่นคัน หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก คลื่นไส้-อาเจียน รุนแรง ท้องเสียรุนแรง และต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเพนิซิลลิน จี ด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

เพนิซิลลิน จี มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาเพนิซิลลิน จี มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ยาเพนิซิลลิน จี ร่วมกับยา Probenecid จะทำให้ยาเพนิซิลลิน จี อยู่ในร่างกายได้นานขึ้นและส่งผลต่อการออกฤทธิ์และประสิทธิภาพต่อการรักษา การจะใช้ยาทั้งคู่ได้อย่างเหมาะสมต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
  • การใช้ยากลุ่มเพนิซิลลิน จี ร่วมกับ ยาต้านเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น เช่นยา Tetracycline อาจทำให้ประสิทธิภาพในการต้านเชื้อแบคทีเรียของเพนิซิลลิน จี น้อยลงจึงควรเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • การใช้ยากลุ่มเพนิซิลลิน จี ร่วมกับ ยา Methotrexate สามารถทำให้ระดับยา Methotrexate ในกระแสเลือดเพิ่มมากขึ้นจนอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงตามมา หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรเลี่ยงการใช้ยาร่วมกันหรือปรับขนาดการใช้ให้เหมาะสมเป็นกรณีๆไป
  • การใช้ยากลุ่มเพนิซิลลิน จี ร่วมกับ ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีส่วนประกอบของ Ethinyl Estradiol อาจทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดด้อยลงไป ดังนั้นขณะใช้ยาทั้ง 2 กลุ่มนี้ร่วมกันควรใช้วิธีอื่นในการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัยชาย
  • การใช้ยากลุ่มเพนิซิลลิน จี ร่วมกับ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่นยา Warfarin อาจก่อให้เกิดภาวะตกเลือดได้ง่ายโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคไต โรคตับ การใช้ยาร่วมกัน จึงต้องคอยเฝ้าระ วังและควบคุมกลไกการแข็งตัวของเลือดให้อยู่ในระดับปกติอยู่เสมอ

ควรเก็บรักษาเพนิซิลลิน จี อย่างไร?

ควรเก็บยาเพนิซิลลิน จี เช่น

  • เก็บยาที่อุณหภูมิ 2 - 8 องศาเซลเซียส (Celsius)
  • ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และ ความชื้น
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

เพนิซิลลิน จี มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาเพนิซิลลิน จี มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
Pen G (เพน จี)PP LAB
Penicillin G Sodium General Drugs House (เพนิซิลลิน จี โซเดียม เจเนอรอล ดรักซ์ เฮาส์)General Drugs House
Penicillin G Sodium MH (เพนิซิลลิน จี โซเดียม เอ็มเฮช)M & H Manufacturing

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Penicillin#Medical_uses [2021,Aug14]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Benzylpenicillin [2021,Aug14]
  3. https://www.drugs.com/dosage/penicillin-v-potassium.html [2021,Aug14]
  4. https://www.mims.com/THAILAND/drug/info/Pen%20G/?tabrecent=2 [2021,Aug14]
  5. https://www.drugs.com/mtm/penicillin-g-potassium.html [2021,Aug14]
  6. https://www.mims.com/Thailand/drug/search/?q=benzylpenicillin&page=0 [2021,Aug14]