เตือนภัย ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

สารบัญ

นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เชียงใหม่ เตือนว่า ในอีก 1 เดือน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H2N3 อาจจะติดมากับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในพื้นที่ แต่ประชาชนไม่ควรตื่นตกใจ เพราะสามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาความสะอาด กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือให้สะอาด รักษาร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทั้งยังให้เด็กและผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เพิ่มความระมัดระวังในช่วงนี้

ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H2N3 เป็นสายพันธุ์ชนิด A ชื่อของไวรัสมาจากรูปแบบโปรตีน 2 ชนิด ที่อยู่ที่พื้นผิวของเชื้อ คือ hemagglutinin (H) และ neuraminidase (N) เชื้อ ไวรัส H2N3 สามารถติดเชื้อได้ในสัตว์ปีก และในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

จากการค้นคว้าที่ตีพิมพ์โดยสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ไวรัส H2N3 ที่ถูกพบในหมูในสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2549 เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยปราศจากการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและกระจายตัวอยู่ในหมูและสัตว์จำพวกพังพอน

การดัดแปลงในส่วนของ H2 hemagglutinin รวมทั้งความสามารถที่จะจับกับตัวรับ (receptor) ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเฉพาะในคน และพบว่าไข้หวัดหมู H2N3 เป็นสาเหตุของการเกิดโรคปอดบวมที่รุนแรงในลิง ไวรัสแพร่พันธุ์ในทางเดินหายใจ ซึ่งเราสามารถแยกเชื้อไวรัสได้จากเนื้อเยื่อปอด จมูก และ ปาก ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการติดต่อในระหว่างสัตว์ด้วยกันเองด้วย

โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H2N3 พบว่าเคยเกิดการระบาดใหญ่ในปี พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 และมีบทความที่กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H2N3 ฆ่าประชากรมากกว่าไข้หวัดใหญ่ H1N1 หรือไม่?” ขึ้นเว็บ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

บทความดังกล่าวระบุว่า Dr. Marcus Gitterle แพทย์จากเมือง New Braunfels รัฐ Texas ได้ส่งข้อความเป็นการภายในว่า น่าจะมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H2N3 สูงกว่าความเป็นจริง 10 - 25 เท่าของผู้ป่วยที่ได้มีการรายงาน เนื่องจากผู้ติดเชื้อ 10 ราย จะได้รับการยืนยันเพียง 1 ราย และผู้ที่สัมผัสเชื้อไข้หวัดหมูนี้จะมีการติดเชื้อสูงถึง 40 - % เมื่อเทียบกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่มีโอกาสติดเชื้อเพียง 10 - 15%เท่านั้น และยังมีนักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า ไวรัสไข้หวัดหมูสายพันธุ์นี้มนุษย์น่าจะเป็นผู้สร้างขึ้นด้วยซ้ำ

ไวรัส H2N3 ซึ่งเป็นการรวมกันของไวรัสไข้หวัดหมู (Swine flu) และ ไข้หวัดนก (Bird flu) ถูกค้นพบครั้งนั้นในฟาร์มหมูที่รัฐ Missouri สหรัฐอเมริกา และครั้งสุดท้ายที่พบว่าไวรัสนี้เป็นปัญหาใหญ่ในคนก็คือการระบาดทั่วโลกในปี พ.ศ. 2511 ดังนั้นปัจจุบันคนที่อายุน้อยกว่า 40 ปี ก็จะไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสนี้

ในการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในปี พ.ศ. 2552 องค์การอนามัยโลก (WHO) เคยประกาศเตือนภัยการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในระดับ 6 ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน สถานการณ์ในตอนนั้นเลวร้ายจริงๆ การระบาดใน เม็กซิโก ซึ่งรายงานว่า ยาต้านไวรัสและวัคซีนใช้ป้องกันไม่ได้ผล มีคนตายวันละ 3 - 4 คน ต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่า 3 สัปดาห์ ผู้เสียชีวิตที่อายุ 20 - 30 ปีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นักวิเคราะห์บางคนยังกล่าวว่า ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างไวรัสไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish flu 1918) ซึ่งเคยระบาดทั่วโลกและมีผู้เสียชีวิตหลายล้านคนทั่วโลก

แหล่งข้อมูล

  1. สสจ.เชียงใหม่เตือน ปชช.ระวัง H2N3 ระบาดใน 1 เดือนข้างหน้า - http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000010307&Keyword=%ca%d2%b8%d2%c3%b3%ca%d8%a2 [2013, February 2].
  2. Influenza A virus subtype H2N3 - http://en.wikipedia.org/wiki/Influenza_A_virus_subtype_H2N3 [2013, February 2].
  3. Is H2N3 Killing More People Than The H1N1 Swine Flu Is? - http://thebirdflupandemic.com/archives/is-h2n3-killing-more-people-than-the-h1n1-swine-flu-is [2013, February 2].