เข้าครัวกับโภชนากร (โรงพยาบาล) :ตอน กินอย่างไรเมื่อเป็นเบาหวานชนิดที่1 (Insulin Dependent Diabetes)

โรคเบาหวานชนิดที่1 หรือ เรียกว่าเบาหวานในเด็กเพราะมักเกิดในเด็กและวัยรุ่นเนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินเองได้ เนื่องจากเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนอินซูลินผิดปกติ โดยสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัส หรือความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านกันเอง เด็กที่เป็นเบาหวานมักมีปัญหากดดัน เกิดความเครียด มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ภูมิต้านทานต่ำ การดูแลด้านอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ การคำนวณความต้องการของพลังงานและสารอาหาร เนื่องจากเด็กจะต้องเจริญเติบโต และยังต้องคำนึงถึงปริมาณ ชนิดของอินซูลินที่ใช้อีกด้วย โดยเฉพาะปริมาณของคาร์โบไฮเดรตที่มีผลต่อการกำหนดปริมาณอินซูลิน การคำนวณพลังงานของเด็กนั้นแตกต่างกับผู้ใหญ่ ซึ่งต้องคำนวณตามอายุ

  1. อายุ 1-10 ปี ใช้ได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง
  2. = พลังงาน 1000 + (100 X อายุ) = พลังงานที่ต้องการ / วัน ตัวอย่างเช่น

    เด็กอายุ 8 ปี = 1000 + (100 X 8) = 1,800 แคลอรี

  3. อายุ 11 – 15 ปี (แยกตามเพศ)
    1. เด็กหญิง = พลังงาน 1000 + (100 X อายุ) +100 = พลังงานที่ต้องการ / วัน ตัวอย่างเช่น
    2. เด็กหญิงอายุ 13 ปี = 1000 + (100 X 13) +100 = 2,400 แคลอรี

    3. เด็กชาย = พลังงาน 1000 + (100 X อายุ) +200 = พลังงานที่ต้องการ / วัน ตัวอย่างเช่น
    4. เด็กชายอายุ 13 ปี = 1000 + (100 X 13) +200 = 2,500 แคลอรี

      พลังงานที่คำนวณในเด็กที่ป่วยซึ่งส่วนใหญ่เด็กมักจะมีรูปร่างผอม แต่ถ้าเด็กที่อ้วนอาจจะลดลง 200 แคลอรี

  4. เด็กอายุ 16ปีขึ้นไป
  5. ใช้วิธีการคำนวณพลังงานเหมือนปกติในผู้ใหญ่ ในการคำนวณพลังงานและสารอาหารควรปรึกษานักกำหนดอาหารเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายที่ต้องใช้ในการเจริญเติบโตต่อไป ซึ่งจำเป็นต้องมีการคำนวณเฉพาะเท่านั้น

อนึ่ง กินอย่างไรเมื่อเป็นเบาหวานชนิดที่1 มี2ตอน ตอนที่ 2 ตอนหน้า เป็นตอนจบของเรื่องนี้คะ

บรรณานุกรม

  • แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลโภชนบำบัดในโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงและภาวะไขมันในเลือดสูง ; กระทรวงสาธารณสุข http://www.dms.moph.go.th/dmsweb/cpgcorner/fooddiabe_03334.pdf [2014,Feb7].