อัมพาต 360 องศา: ต้องหยุดยาต้านเกร็ดเลือดก่อนการทำฟันกี่วัน
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 9 ตุลาคม 2558
- Tweet
การทานยาต้านเกล็ดเลือดเพื่อป้องกันไม่เกิดการกลับเป็นซ้ำของโรคหลอดเลือดสมองตีบ จะเพิ่มโอกาสการเกิดเลือดออกแล้วหยุดยาก ดังนั้นก่อนการทำหัตถการใดๆ แพทย์ ทันตแพทย์มักจะแนะนำให้หยุดทานยาต้านเกล็ดเลือด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเลือดไหลหยุดยาก ก่อนการทำฟันหรือผ่าตัดตา และผู้ป่วยบางรายก็เกิดการกลับเป็นซ้ำของโรคอัมพาตในขณะหยุดทานยาต้านเกล็ดเลือด เราจึงต้องรู้ว่าการทานยาต้องหยุดยาเมื่อใด และเมื่อใดไม่ควรหยุด ดังต่อไปนี้
- กรณีเป็นการผ่าตัดฉุกเฉินไม่จำเป็นต้องหยุดยาต้านเกล็ดเลือด เพราะการผ่าตัดฉุกเฉินนั้นเป็นเรื่องเร่งด่วนที่เป็นอันตรายต่อชีวิตถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันเวลา ดังนั้นไม่ต้องรอเวลาหยุดยา
- กรณีเป็นการผ่าตัดเล็กๆ เช่น การทำฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน รักษารากฟัน รักษาเหงือกอักเสบ การผ่าตัดตาต้อกระจก ต้อเนื้อ ตัดผิวหนังไปตรวจ ไม่มีความจำเป็นต้องหยุดยาต้านเกล็ดเลือด เพราะมีโอกาสเลือดออกน้อยมากๆ
- กรณีเป็นการผ่าตัดที่ใหญ่ขึ้นและมีเลือดออกได้ง่าย เช่น การส่องกล้องตัดตรวจชิ้นเนื้อ การผ่าตัดต่อมลูกหมาก การส่องกล้องผ่าตัดถุงน้ำดี อาจไม่จำเป็นต้องหยุดยาต้านเกล็ดเลือดก็ได้ถ้ารีบ แต่ถ้าไม่รีบการหยุดยาก่อนผ่าตัดประมาณ 5 วันก็เพียงพอ
- กรณีการผ่าตัดใหญ่ขึ้นที่เป็นการเตรียมการล่วงหน้า ไม่ใช่ภาวะเร่งด่วน เช่น การผ่าตัดหัวใจ ผ่าตัดปอด ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า เป็นต้น
การหยุดยาต้านเกล็ดเลือดโดยไม่จำเป็นก็จะมีผลเสียได้ คือ การกลับเป็นซ้ำของโรคอัมพาตหลอดลือดสมองตีบ แต่ในกรณีที่ต้องรับการผ่าตัด แต่แพทย์ไม่ทราบเพราะผู้ป่วยไม่ได้บอกแพทย์ ก็เกิดผลเสียคือเลือดออกไหลไม่หยุดภายหลังการผ่าตัด ดังนั้นผู้ป่วยต้องทราบว่าตนเองทานยาต้านเกล็ดเลือด และต้องบอกแพทย์ทุกครั้งที่ต้องมีการทำหัตถการทุกชนิด เพื่อให้แพทย์ทราบ จะได้วางแผนการรักษาที่ถูกต้อง ผู้ป่วยก็จะได้รับการรักษาที่ดีและปลอดภัย