ศัลยกรรมขากรรไกร - อันตรายใกล้ตัว (ตอนที่ 5)

ศัลยกรรมเสริมสวยเพื่อความงามที่แพร่หลายมากที่สุด ได้แก่ (1) ศัลยกรรมช่องท้อง (Abdominoplasty)เพื่อปรับรูปร่างและกระชับหน้าท้อง (abdomen) (2) ศัลยกรรมหนังตา (Blepharoplasty) เพื่อปรับรูปร่างของหนังตา และ (3) ศัลยกรรมจุดซ่อนเร้นชาย (Phalloplasty) เพื่อดูดไขมันหรือการเสริมสร้างใหม่ของอวัยวะเพศชาย

[ปัจจุบันมีศูนย์ศัลยกรรมจุดซ่อนเร้นหญิง แห่งแรกของโลกในสหรัฐอเมริกา และแห่งแรกของเอเชียในประเทศไทย เป็นศัลยกรรมเสริมสวยอวัยวะเพศหญิง เพื่อตอบสนองความต้องการสร้างความมั่นใจของผู้หญิงขณะมีเพศสัมพันธ์ อันเป็นส่วนประกอบสำคัญของชีวิตคู่]

ศัลยกรรมเต้านม (Mammoplasty) อันได้แก่ (1) การเสริมเต้านม (breast augmentation เพื่อการเสริมไขมัน น้ำเกลือ หรือ ซิลิโคน เจล ในเต้านม ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นเริ่มต้นในผู้หญิงเต้านมเล็ก (2) การลดขนาดเต้านม (Reduction mammoplasty) เพื่อเอาผิวหนังและเนื้อเยื่อออก เป็นการลดการปวดหลังและหัวไหล่ในผู้หญิงเต้านมโต(Gigantomastia) และผลทางจิตวิทยาในผู้ชายที่มีเต้านมเหมือนผู้หญิง(Gynecomastia) และ (3) Mastoplexy เพื่อการยกหรือเปลี่ยนรูปเต้านม โดยทำให้เต้านมย้อยน้อยลง

การทำศัลยกรรมเสริมก้น (Buttock augmentation) เพื่อการเพิ่มขึ้นของเนื้อบริเวณก้นโดยใช้การเสริมซิลิโคน หรือไขมัน รวมทั้งการยกแก้มก้น (Buttock lift) เพื่อกทำให้กล้ามเนื้อก้น (tightening) กระชับขึ้น ในด้าน สารเคมีลอกผิว (Chemical peel) ช่วยลดการเกิดสิว อีสุกอีใส และแผลเป็นอื่นๆ ที่ทำให้เกิดรอย (ขึ้นกับความเข้มข้นและชนิดของสารที่ใช้) ฝ้า และผิวที่เสียจากการโดนแสงโดยทั่วๆ ไป

ศัลยกรรมริมฝีปาก (Labiaplasty) เพื่อลดขนาดหรือเปลี่ยนรูปของริมฝีปาก ส่วนการเพิ่มขนาดริมฝีปาก (Lip enhancement) เป็นศัลยกรรมที่ทำให้ริมฝีปากเต็มอิ่มดูดีขึ้นโดยการเพิ่มขนาด ส่วนการเสริมจมูก (Rhinoplasty) เพื่อเปลี่ยนรูปของจมูก การเสริมจมูก และศัลยกรรมใบหู (Otoplasty) เพื่อเปลี่ยนรูปร่างของหู

ศัลยกรรมดึงหน้า (Rhytidectomy) เพื่อลบริ้วรอยและรอยตีนกาบนใบหน้า ศัลยกรรมหน้าผาก (Browplasty) เพื่อดึงขนคิ้วให้สูงขึ้นและปรับกระดูกโหนกให้เรียบ ศัลยกรรมแก้ม (Midface lift) เพื่อกระชับแก้ม ศัลยกรรมคาง (Chin augmentation) เพื่อปลูกถ่ายคางโดยการฝังสารซิลิโคน แล้วแต่งคางของขากรรไกร หรือโดยการผ่าตัดเนื้อเยื่ออ่อน ส่วนศัลยกรรมแก้ม (Cheek augmentation) เพื่อปลูกถ่ายแก้ม

บนใบหน้ายังมีศัลยกรรมกะโหลกศีรษะปิดไม่สนิท (Orthognathic Surgery) เป็นหัตถการของกระดูกบน ใบหน้าโดยควบคุมการร้าวหรือแตกหัก การฉีดสาร (Filler injection) อาทิ โปรตีน (Collagen) ไขมัน และเนื้อเยื่อต่างๆ เข้าเสริม การฉายแสงเลเซอร์ฟื้นฟูผิวหนัง (Laser skin rejuvenation or resurfacing) เพื่อทำผิวหน้าใหม่ โดยทำการลดความลึกของหลุมบนใบหน้า

การดูดไขมัน (LiposuctionSuction) เพื่อนำไขมันที่เกาะออกโดยเทคนิคการดูดต่อเนื่อง หรืออาศัยพลังคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic) เพื่อเอาไขมันออก นอกจากนี้ยังมีกระชับแขน (Brachioplasty) เพื่อการลดลงของผิวหนังและไขมันที่มากเกินไประหว่างใต้แขนและหัวไหล่

แหล่งข้อมูล:

  1. Plastic surgery - http://en.wikipedia.org/wiki/Plastic_surgery [2013, June 24].
  2. แห่งแรกในเอเชีย "ศูนย์จุดซ่อนเร้น" - http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371211692&grpid=&catid=09&subcatid=0902 [2013, June 24].