เรื่องเฉพาะสตรี...วัยเจริญพันธุ์ ตอนที่ 8

การคุมกำเนิดมีวิธีใดบ้าง (ตอนที่2)?

  • ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม

    ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมที่มีอยู่ทั้งสองชนิดได้แก่ ไซโคลเฟม/Cyclofem (ชื่อการค้า) และเมสิไกนา/ Mesigyna (ชื่อการค้า) ล้วนเป็นยาฉีดที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสติน (Progestin) ซึ่งใช้นำมาฉีดเพื่อการคุมกำเนิดเดือนละครั้ง ยาเหล่านี้จะกดการตกไข่ ทำให้มูกปากมดลูกข้นขึ้น (ซึ่งจะมีผลในการป้องกันการเคลื่อนที่ผ่านของตัวอสุจิ) เปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูก (ทำให้การฝังตัวเป็นไปได้ยากขึ้น) และลดการนำพาตัวอสุจิขึ้นไปสู่อวัยวะสืบพันธุ์ภายในตอนบน (หลอดมดลูก/ท่อนำไข่)

  • ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม

    ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม เป็นยาเม็ดที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน รับประทานวันละครั้ง ยาเหล่านี้จะกดการตกไข่ ทำให้มูกปากมดลูกข้นขึ้น (ซึ่งจะมีผลในการป้องกันการเคลื่อนที่ผ่านของตัวอสุจิ) เปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูก (ทำให้การฝังตัวเป็นไปได้ยากขึ้น) และลดการนำพาตัวอสุจิขึ้นไปสู่อวัยวะสืบพันธุ์ภายในตอนบน (หลอดมดลูก) เช่นเดียวกัน

  • ยาฝังใต้ผิวหนัง

    ยาฝังใต้ผิวหนัง มีลักษณะเป็นแคปซูลเล็กๆที่ยืดหยุ่นได้ ทำจากท่อไซลาสติก (Silastic)ที่เติมเต็มไว้ด้วยโปรเจสตินสังเคราะห์/Synthetic progestin (เลโวนอร์เจสเตรล/Levonorgestrel หรืออีโทโนเจสเตรล/Etonogestrel) แคปซูลนี้จะถูกสอดไว้ใต้ผิวหนังบริเวณด้านในท่อนแขนส่วนบนของสตรี โดยใช้หัตถการผ่าตัดเล็ก ยาฝังใต้ผิวหนังนี้จะทำงานโดยการทำให้มูกปากมดลูกข้นขึ้น เปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูก และลดการนำพาตัวอสุจิขึ้นไปสู่อวัยวะสืบพันธุ์ภายในตอนบน ในปัจจุบัน สามารถให้ผลในการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพอย่างสูงได้เป็นระยะเวลานานถึง 3 ปี หากฝังแบบ 1 แท่ง และนานถึง 5 ปี หากฝังแบบ 2 แท่ง ซึ่งดีกว่ารุ่นเก่ามาก เพราะต้องฝังถึง 6 แท่ง แต่ก็อยู่ได้เพียง 5 ปีเท่ากัน

  • ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว

    ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียวมีอยู่ 2 ชนิดคือ เดโป-โปรเวรา (Depovera) และ นอริสเตอแรท (Noristerat) ใช้ฉีดทุก 3 และ 2 เดือนตามลำดับ ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียวนี้ทำงานโดยการทำให้มูกปากมดลูกข้นขึ้น เปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูก ลดการนำพาตัวอสุจิขึ้นไปสู่อวัยวะสืบพันธุ์ภายในตอนบน และยังกดการตกไข่อีกด้วย

  • ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว

    ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว ใช้รับประทานวันละ 1 เม็ด ทำงานโดยการกดการตกไข่ ทำให้มูกปากมดลูกข้นขึ้น เปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูก ลดการนำพาตัวอสุจิขึ้นไปสู่อวัยวะสืบพันธุ์ภายในตอนบนเช่นเดียวกันครับ

  • การใส่ห่วงอนามัย

    ห่วงอนามัยเป็นอุปกรณ์ที่ยืดหยุ่นได้ขนาดเล็กๆ รูปตัวที (T-shape) ใช้ใส่เข้าไปอยู่ในโพรงมดลูก อาจเป็นแบบเฉื่อย (ไม่มีการปล่อยสารใดๆออกมา) แบบปล่อยสารทองแดง หรือแบบปล่อยฮอร์โมนโปรเจสติน โดยห่วงอนามัยแบบปล่อยสารทองแดง จะไปรบกวนความสามารถของตัวอสุจิในการเดินทางผ่านโพรงมดลูก และรบกวนกระบวนการปฏิสนธิซึ่งโดยปกติจะมีขึ้นก่อนที่ไข่จะมาถึงโพรงมดลูก ส่วนห่วงอนามัยแบบปล่อยฮอร์โมนโปรเจสติน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งมูกปากมดลูกข้นขึ้น และจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งไม่เหมาะสมแก่การตั้งครรภ์ด้วยครับบ

  • การทำหลอดมดลูกให้ตันในสตรี (การทำหมันหญิง)

    การทำหลอดมดลูก/ท่อนำไข่ให้ตัน เป็นหัตถการเพื่อการทำหมันถาวร อาจทำโดยการผ่าตัดเล็กของช่องท้องหรือผ่านทางกล้องส่องช่องท้องก็ได้ การทำหลอดมดลูกให้ตันนั้น (จะโดยการผูกและตัด ใช้ยางรัด ใช้คลิปหนีบ หรือใช้กระแสไฟฟ้าจี้ทำลายก็ตาม) จะอุดกั้นหลอดมดลูกไม่ให้ตัวอสุจิเดินทางไปปฏิสนธิกับไข่ได้นั่นเองครับ

  • การผูกและตัดท่อน้ำเชื้อในบุรุษ (การทำหมันชาย)

    การผูกและตัดท่อน้ำเชื้อในบุรุษ เป็นหัตถการเพื่อการทำหมันถาวร อาจทำโดยวิธีมาตรฐานหรือวิธีไม่ใช้ใบมีด (หมันเจาะ) ซึ่งเป็นวิธีที่พึงประสงค์กว่าก็ได้ การผูกและตัดท่อน้ำเชื้อนี้จะอุดกั้นท่อน้ำเชื้อทำให้ไม่มีตัวอสุจิอยู่ในน้ำอสุจิ/น้ำเชื้อเลย แต่ยังมีน้ำอสุจิ (ที่ไม่มีตัวอสุจิ)ได้อยู่นะครับ

บรรณานุกรม

  1. ตำรานรีเวชวิทยา ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  2. ตำรานรีเวชวิทยา ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  3. http://www.cancer.gov/ access date 1st October, 2004.