รับมือกับริดสีดวงทวารอย่างไรดี (ตอนที่ 3)

หากท่านมีอายุมากกว่า 50 ปี หรือมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่แล้ว ท่านควรแจ้งให้แพทย์ทราบเมื่อทวารหนักมีเลือดไหลออก โดยให้สังเกตดูเลือดในอุจจาระ พฤติกรรมการขับถ่ายที่เปลี่ยนไป หรือมีอาการปวดที่ทวารหนัก สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งแพทย์อาจแนะนำให้ทำการตรวจที่เฉพาะยิ่งขึ้น

แพทย์สามารถแยกแยะอาการของริดสีดวงทวารจากโรคอื่นที่ร้ายแรงกว่า ทั้งนี้มีความเจ็บป่วยหลายอย่างที่กระทบกับทวารหนักและลำไส้ใหญ่และเป็นสาเหตุของการมีเลือดออก การมีมูก อาการคัน และความรู้สึกไม่สบาย คนส่วนมากที่มีอาการเหล่านี้มักคิดว่าตนเป็นริดสีดวงทวาร แต่บ่อยครั้งที่ไม่ใช่ ซึ่งกรณีที่เป็นริดสีดวงทวาร แพทย์จะประเมินตำแหน่ง ขนาดที่เป็น และแผนการรักษา โดยดูจากความรุนแรงของริดสีดวงทวาร

การวิเคราะห์ว่าเป็นอาการของริดสีดวงทวารนั้น ขึ้นกับประวัติการรักษาและการตรวจทางกายภาพ เบื้องต้นอาจตรวจภายในรูทวารหนักและลำไส้ใหญ่ส่วนปลายด้วยการใช้นิ้วมือ (Digital rectal exam) และการส่องกล้องตรวจริดสีดวงทวารบริเวณกล้ามเนื้อหูรูดของช่องทวารหนัก (Anoscopy) หากผลเป็นที่ชัดเจนว่า ริดสีดวงทวารเป็นสาเหตุของการมีเลือดออกทางทวารหนักโดยที่ท่านมีอายุต่ำกว่า 50 ปี และไม่มีปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่แล้ว ก็อาจไม่ต้องตรวจอะไรเพิ่มเติม

แต่หากไม่แน่ใจว่าเป็นโรคอื่นด้วยหรือไม่ (เช่น โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่) ท่านอาจต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมดังนี้

  • การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย (Flexible sigmoidoscopy) ซึ่งช่วยให้แพทย์มองเห็นภายในช่องทวารหนัก ลำไส้ตรง และลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ที่มีความผิดปกติหรือเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ
  • การสวนแป้งแบเรียม (Barium enema) ซึ่งเป็นวิธีการตรวจทางรังสีวิทยาเพื่อหาความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ โดยการสวนแป้งแบเรียมและลมเข้าทางทวารหนัก จากนั้นจึงทำการเอกซเรย์
  • การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ทั้งหมด (Colonoscopy)

ส่วนใหญ่ริดสีดวงทวารสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงอาหารการกินและนิสัยการขับถ่าย ส่วนมากไม่ต้องใช้การผ่าตัด ยกเว้นกรณีที่ริดสีดวงทวารมีขนาดใหญ่และมีอาการปวด วัตถุประสงค์ของกระบวนการรักษาริดสีดวงทวารโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่เรียกว่า Fixative procedures ก็คือ การลดปริมาณเลือดที่ริดสีดวงทวาร ซึ่งทำให้ริดสีดวงทวารหดตัวลงหรือหายไป แผลเป็น (Scar tissue) ที่เกิดขึ้นจะช่วยค้ำจุนเนื้อเยื่อทวารหนักและช่วยป้องกันไม่ให้ริดสีดวงทวารโตอีก Fixative procedures รวมถึง

  • การใช้ยางรัด (Rubber band ligation) เป็นขั้นตอนของการผูกริดสีดวงด้วยยางรัด เพื่อตัดทางเดินของเลือด ทำให้ริดสีดวงหดตัวและหลุดไป โดยใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
  • การจี้ริดสีดวงด้วยอินฟราเรด (Infrared photocoagulation) เลเซอร์ หรือไฟฟ้า ทำให้เกิดแผลเป็น เพื่อตัดทางเดินของเลือดที่ไปเลี้ยงริดสีดวง ทำให้ริดสีดวงหดตัวและตายไป

การผ่าริดสีดวง (Hemorrhoidectomy) จะใช้เมื่อมีริดสีดวงจำนวนมากในลำไส้ใหญ่ หรือเมื่อการรักษาแบบอื่นไม่สามารถหยุดเลือดได้ บางทีการรักษาแบบผสม (เช่น Fixative procedures ร่วมกับการผ่าตัด) ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการรักษาริดสีดวงทวาร

แหล่งข้อมูล:

  1. When To Call a Doctor. - http://www.webmd.com/a-to-z-guides/hemorrhoids-when-to-call-a-doctor [2013, April 24].
  2. Exams and Tests. - http://www.webmd.com/a-to-z-guides/hemorrhoids-exams-and-tests [2013, April 24].
  3. Treatment Overview. - http://www.webmd.com/a-to-z-guides/hemorrhoids-treatment-overview [2013, April 24].
  4. Other Treatment. - http://www.webmd.com/a-to-z-guides/hemorrhoids-other-treatment [2013, April 24].