ยารักษารังแค (Medications for dandruff)

บทความที่เกี่ยวข้อง


ยารักษารังแค

ยารักษารังแคคือยามีคุณสมบัติอะไร?

รังแค(Dandruff) มีลักษณะเป็นขุยหรือสะเก็ดสีขาวบริเวณหนังศีรษะ สาเหตุของการเกิดรังแคยังไม่ทราบแน่ชัด อาจเกิดจากเซลล์หนังกำพร้าบริเวณหนังศีรษะแบ่งตัวเร็วผิดปกติ หรือจากการติดเชื้อ ‘มาลาสซีเซีย เฟอร์เฟอร์(Malassezia furfur)’ ซึ่งเป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่พบได้บริเวณผิวหนัง หรือสาเหตุอื่นๆ ตัวอย่างเช่น การแพ้สารเคมีที่สัมผัสกับหนังศีรษะ จำพวกแชมพู น้ำยาย้อมสีผม เป็นต้น

การรักษารังแค อาจเริ่มต้นด้วยการใช้แชมพูสูตรที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นก็สามารถใช้ยารักษารังแค(Dandruff medications หรือ Medications for dandruff) ที่ออกฤทธิ์ลดปริมาณรังแค หรือฆ่าเชื้อราบริเวณหนังศีรษะ

ยารักษารังแค เป็นยาใช้ภายนอก ที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของแชมพูสระผม

ยารักษารังแคแบ่งเป็นกี่ประเภท?

ยารักษารังแค แบ่งได้เป็นประเภท/เป็นกลุ่ม ดังนี้

ก. ยาต้านเชื้อรา (Antifungal agents): เช่นยา

  • ซีลีเนียม ซัลไฟด์ (Selenium Sulfide)
  • คีโตโคนาโซล (Ketoconazole)
  • ไซโคลไพร็อก (Ciclopirox)

ข. ยาออกฤทธิ์เร่งการผลัดเซลล์ผิว/ ยาลอกผิวหนัง (Keratolytic agents): เช่นยา

  • กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid)
  • กำมะถัน (Sulphur topical)

ค.ยายับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์หนังศีรษะ(Antiproliferative agents): เช่นยา

  • น้ำมันดิน (Coal tar/ Coal tar topical)
  • ซิงก์ ไพริไทโอน (Zinc pyrithione)

ยารักษารังแคมีรูปแบบจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยารักษารังแคมีรูปแบบจัดจำหน่าย เช่น

  • แชมพู (Shampoo)
  • ครีม (Cream)
  • ยาน้ำใส (Solution)
  • ขี้ผึ้ง (Ointment)
  • โฟม (Foam)
  • เจล (Gel)
  • โลชั่น (Lotion)

อนึ่ง แนะนำอ่านเพิ่มเติมเรื่องรูปแบบของยาต่างๆได้จากเว็บ haamor.com บทความเรื่อง “รูปแบบยาเตรียม”

มีข้อบ่งใช้ยารักษารังแคอย่างไร?

มีข้อบ่งใช้ยารักษารังแค ในการใช้รักษารังแคและป้องกันการกลับเป็นซ้ำ เช่น

  • ยาต้านเชื้อรา: เพื่อใช้ฆ่าเชื้อรา มาลาสซีเซีย เฟอร์เฟอร์ (Malassezia furfur) บริเวณหนังศรีษะ
  • ยาออกฤทธิ์เร่งการผลัดเซลล์ผิว: เพื่อช่วยให้สะเก็ดหรือขุยของรังแคหลุดออกได้เร็วขึ้น
  • ยายับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์หนังศีรษะ: เพื่อช่วยลดปริมาณรังแค, บรรเทาอาการอักเสบและคันบริเวณหนังศีรษะ

มีข้อห้ามใช้ยารักษารังแคอย่างไร?

มีข้อห้ามใช้ยารักษารังแค เช่น

  • ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยานั้นๆ หรือผู้มีมีปฏิกิริยาตอบสนอง/ความไวเกินที่รุนแรง(Hypersensitivity)ต่อยานั้นๆ
  • ห้ามใช้ยารักษารังแคบริเวณผิวหนังที่
    • มีการติดเชื้อ
    • มีแผลเปิด
    • มีแผลพุพอง
    • หรือ มีตุ่มหนอง

มีข้อควรระวังการใช้ยารักษารังแคอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยารักษารังแค เช่น

1. ยารักษารังแค มีตัวยาสำคัญและรูปแบบที่แตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี ควรปฏิบัติตามวิธีใช้และคำแนะนำบนฉลากยา/เอกสารกำกับยาอย่างเคร่งครัด ตัวอย่างเช่น การใช้ยาในรูปแบบแชมพูสระผม หากสระทิ้งไว้นานหรือใช้บ่อยเกินไป อาจทำให้ระคายเคืองหรือแสบร้อนบริเวณผิวหนัง/หนังศีรษะที่ใช้

2. ขณะที่ใช้ยารักษารังแคที่อยู่ในรูปแบบของยาสระผม ควรมัดระวังไม่ให้เข้าตา หากผลิตภัณฑ์เข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก หลังจากนั้นถ้ายังมีอาการทางตา ควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาล

3. ยา Coal tar อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังที่บอบบาง ระวังการใช้บริเวณที่

  • ผิวหนังอักเสบ แห้ง แตก
  • และหยุดใช้ยานี้ทันทีหากระคายเคืองหรือมีอาการรุนแรงกว่าเดิม

4. ยาCoal tar อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดด ดังนั้น

  • ควรระวังการใช้ร่วมกับยาอื่นๆที่ทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ยาขับปัสสาวะกลุ่ม Thiazides, ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย/ ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Tetracyclines ,
  • หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังจากใช้ยาCoal tar เพื่อป้องกันการเกิดผิวไหม้แดด
  • ซึ่งหากเลี่ยงไม่ได้ ควรสวมหมวกหรือกางร่มเพื่อป้องกันแสงแดด

5. ยา Coal tar อาจทำให้สีผมเปลี่ยนไปชั่วคราว โดยเฉพาะผู้ที่มีผมสีอ่อน เช่น ขาว เทา หรือทอง และสีของแชมพูอาจติดอยู่บริเวณ ผิวหนัง เสื้อผ้า หรือปลอกหมอน เป็นต้น

การใช้ยารักษารังแคในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรเป็นอย่างไร?

การใช้ยารักษารังแคในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรเป็นดังนี้ เช่น

  • ยารักษารังแค สามารถใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ แต่ควรใช้เฉพาะบริเวณที่เป็นรังแค และใช้ภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น
  • ยกเว้นยา Coal tar ที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีผลการศึกษาด้านความปลอดภัยที่มากเพียงพอ

การใช้ยารักษารังแคในผู้สูงอายุควรเป็นอย่างไร?

การใช้ยารักษารังแคในผู้สูงอายุควรเป็นดังนี้ คือ

  • ผู้สูงอายุสามารถใช้ยารักษารังแคได้ อาการไม่พึงประสงค์จากยาที่พบ ไม่แตกต่างกันกับในวัยผู้ใหญ่

การใช้ยารักษารังแคในเด็กควรเป็นอย่างไร?

การใช้ยารักษารังแคในเด็กควรเป็นดังนี้ เช่น

1. รังแคมีโอกาสพบในเด็กได้น้อยกว่าวัยอื่นๆ ยารักษารังแคสามารถใช้ได้ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป เช่นยา Sulfur topical, Salicylic acid, Selenium sulfide, Zinc pyrithione และ Coal tar

2. ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยา Ketoconazole และ Ciclopirox ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี เพราะยังไม่มีข้อมูลด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากเพียงพอ

3. เพื่อความปลอดภัย การใช้ยารักษารังแคในเด็ก ควรปรึกษาแพทย์ หรือ เป็นคำสั่งใช้จากแพทย์

อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยารักษารังแคเป็นอย่างไร?

อาการไม่พึงประสงค์ของยา จากการใช้ยารักษารังแค เช่น

  • ยาต้านเชื้อรา: อาจทำให้เกิด
    • ผื่นคัน
    • ผมร่วง หรือ ผมบางลงผิดปกติ
    • ผิวหนังหรือหนังศีรษะมีอาการระคายเคือง แห้ง คัน หรือแสบร้อน
    • ลักษณะของเส้นผมผิดปกติ สีผมเปลี่ยนไป
    • ผมและหนังศีรษะมันหรือแห้งผิดปกติ
  • ยากลุ่ม Keratolytic agents: ทำให้บริเวณหนังศีรษะหรือผิวหนังมีอาการระคายเคือง คัน แสบร้อน ผิวหนังแห้งลอก
  • ยา Coal tar: ทำให้บริเวณหนังศีรษะ
    • แห้ง แดง คัน ระคายเคือง
    • สีผมเปลี่ยนไป
    • ผิวไวต่อแสง
    • ผมร่วง หรือผมบางลงผิดปกติ
    • รูขุมขนอักเสบ
    • ระคายเคืองตา
  • ยา Zinc pyrithione: ทำให้ผิวหนัง/หนังศีรษะเกิดอาการ ระคายเคือง แสบร้อน พุพอง

สรุป

ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยารักษารังแค) ยาแผนโบราญ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะ ยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิด ควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

บรรณานุกรม

  1. ชนิษฎา ตู้จินดา. รังแค (Dandruff) http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/admin/article_files/555_1.pdf [2019,April13]
  2. สิกขวัฒน์ นักร้อง. รังแคกับการใช้ยาที่เหมาะสม. วงการยา ฉบับที่ 196 (ตุลาคม 2557): 10-11.
  3. Grimalt, R. A Practical Guide to Scalp Disorders. Journal of Investigative Dermatology Symposium Proceedings 12 (2007): 10–14.
  4. Pray, W. S. Dandruff and Seborrheic Dermatitis.2001. https://www.medscape.com/viewarticle/407641_5 [2019,April13]
  5. Schaefer, C., Peters, P. W. J., and Mille, R. K. (2015). Drugs During Pregnancy and Lactation. (3rd ed.). Europe: Academic Press.