เรื่องเฉพาะสตรี...มะเร็งเต้านม ตอนที่ 6

ระยะของโรคมะเร็งเต้านมมีอะไรบ้าง?

หลังจากให้การวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมได้แล้ว ก็จะมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาดูว่าเซลล์มะเร็งได้มีการกระจายไปมากเพียงใดแล้ว กระบวนการนี้เรียกว่าการจัดระยะโรคซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้จากการตรวจเพิ่มเติมเหล่านี้มาใช้ การจัดระยะโรคนั้น ทำไปเพื่อนำมาใช้วางแผนในการรักษาผู้ป่วยแต่ละคน โดยมีนิยามของแต่ละระยะดังต่อไปนี้

ระยะที่ 0 (ความผิดปกติก่อนเป็นมะเร็ง)

มีความผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งเต้านมอยู่ 2 ชนิด ได้แก่

  1. ความผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งเต้านมของท่อน้ำนม เป็นความผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งที่พบอยู่ในเซลล์เยื่อบุผิวของท่อน้ำนมของเต้านม เซลล์ที่ผิดปกติจะยังไม่มีการลุกลามกระจายไปนอกท่อน้ำนมสู่เนื้อเยื่ออื่นๆในเต้านม ในบางกรณี ความผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งเต้านมของท่อน้ำนมนี้จะกลายไปเป็นโรคมะเร็ง แล้วจึงจะสามารถลุกลามกระจายไปสู่เนื้อเยื่ออื่นๆได้ แต่ในขณะนี้เรายังไม่ทราบวิธีการพยากรณ์ว่า รอยโรคที่พบแบบใดที่จะกลายไปเป็นมะเร็ง
  2. ความผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งเต้านมของต่อมน้ำนม เป็นความผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งที่พบอยู่ในเซลล์เยื่อบุผิวของต่อมน้ำนมของเต้านม ความผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งเต้านมของต่อมน้ำนมนี้ แทบไม่เคยกลายไปเป็นมะเร็งเลย อย่างไรก็ตาม การที่มีความผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งเต้านมของต่อมน้ำนมในเต้านมข้างหนึ่งแล้ว ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง
 

ระยะที่ 1

ขนาดของก้อนมะเร็งโตไม่เกิน 2 เซนติเมตร และยังไม่มีการลุกลามกระจายออกไปนอกเต้านม

ระยะที่ 2 เอ (2A)

ไม่พบก้อนมะเร็งในเต้านม แต่พบว่ามีเซลล์มะเร็งอยู่ในต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขน/รักแร้ หรือขนาดของก้อนมะเร็งโตไม่เกิน 2 เซนติเมตร แต่มีการกระจายออกไปสู่ต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขน/รักแร้แล้ว หรือขนาดของก้อนมะเร็งโตระหว่าง 2 เซนติเมตรถึง 5 เซนติเมตรแต่ยังไม่มีการลุกลามกระจายออกไปสู่ต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขน/รักแร้

ระยะที่ 2 บี (2B)

ขนาดของก้อนมะเร็งโตระหว่าง 2 เซนติเมตรถึง 5 เซนติเมตรและมีการลุกลามกระจายออกไปสู่ต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขน/รักแร้แล้ว หรือ ขนาดของก้อนมะเร็งโตมากกว่า 5 เซนติเมตรแต่ยังไม่มีการลุกลามกระจายออกไปสู่ต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขน/รักแร้

ระยะที่ 3 เอ (3A)

ไม่พบก้อนมะเร็งในเต้านม แต่พบว่ามีเซลล์มะเร็งอยู่ในต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขน/รักแร้ที่ติดกันเองเป็นแพหรือไปติดกับเนื้อเยื่ออื่นๆ หรือ ขนาดของก้อนมะเร็งเล็กกว่า 5 เซนติเมตรแต่มีการกระจายออกไปสู่ต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขน/รักแร้ที่ติดกันเองเป็นแพหรือไปติดกับเนื้อเยื่ออื่นๆแล้ว หรือขนาดของก้อนมะเร็งโตกว่า 5 เซนติเมตร และมีการลุกลามกระจายออกไปสู่ต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขน/รักแร้แล้ว แต่ต่อมน้ำเหลืองอาจจะติดกันเองเป็นแพ หรือติดกันกับเนื้อเยื่ออื่นๆแล้วหรือไม่ก็ได้

ระยะที่ 3 บี (3B)

ก้อนมะเร็งอาจมีขนาดเท่าใดก็ได้ แต่ได้มีการลุกลามกระจายไปยังเนื้อเยื่ออื่นๆข้างเคียงแล้ว (เช่นผิวหนังหรือผนังหน้าอก ซึ่งหมายรวมถึงกระดูกซี่โครงและกล้ามเนื้อในบริเวณหน้าอก) และอาจกระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองภายในเต้านมหรือใต้วงแขน/รักแร้แล้วด้วย

ระยะที่ 3 ซี (3C)

เซลล์มะเร็งได้ลุกลามกระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลืองใต้กระดูกไหปลาร้า และต่อมน้ำเหลืองใกล้ลำคอแล้ว และอาจกระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองภายในเต้านมหรือใต้วงแขน/รักแร้แล้วด้วย

ระยะที่ 3 ซี นี้ยังแบ่งออกได้เป็นกลุ่มที่สามารถรับการผ่าตัดรักษาได้ และกลุ่มที่ไม่สามารถรับการผ่าตัดรักษาได้อีกด้วย โดยในกลุ่มที่สามารถรับการผ่าตัดรักษาได้ เซลล์มะเร็งจะถูก

  1. พบว่าลุกลามกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขน/รักแร้ 10 ต่อมหรือมากกว่า หรือ
  2. พบว่าลุกลามกระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลืองใต้กระดูกไหปลาร้าและต่อมน้ำเหลืองใกล้ลำคอ ข้างเดียวกันกับเต้านมที่มีก้อนมะเร็งอยู่ หรือ
  3. พบว่าลุกลามกระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองภายในเต้านมนั้นเอง หรือต่อมน้ำเหลืองใต้วงแขนเท่านั้น

    ในกลุ่มที่ไม่สามารถรับการผ่าตัดรักษาได้ เซลล์มะเร็งจะลุกลามกระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้า และเหนือต่อมน้ำเหลืองใกล้ลำคอข้างเดียวกันกับเต้านมที่มีมะเร็งอยู่แล้ว

ระยะที่ 4

เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆของร่างกายแล้ว ซึ่งมักจะเป็นที่ กระดูก ปอด ตับ และ/หรือ สมอง

บรรณานุกรม

  1. ตำรานรีเวชวิทยา ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  2. ตำรานรีเวชวิทยา ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  3. http://www.cancer.gov/ access date 1st October, 2004.