ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ (Normal Pressure Hydrocephalus)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

เราคงเคยเห็นผู้สูงอายุเดินเซ ความจำไม่ดีและมีปัสสาวะราดในบางครั้ง ซึ่งเราคิดว่าลักษณะดังกล่าวคือ ผู้สูงอายุปกติ ไม่ได้เป็นโรคอะไร ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ ถ้าท่านคิดแบบนี้ ท่านคิดผิดครับ และอาจจะเสียใจถ้าผู้สูงอายุคือญาติของเรา และตรวจพบภายหลังว่า เป็นภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ (Normal pressure hydrocephalus หรือ บางท่านเรียกย่อว่า ภาวะ/โรค NPH) ลองติดตามครับว่าภาวะนี้คืออะไร มีอาการอย่างไร และจะให้การรักษาอย่างไร

 

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติคืออะไร?

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ คือ ภาวะที่มีความผิดปกติจากการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง หรือ การตรวจแม่เหล็กไฟฟ้า(เอมอาร์ไอ)สมองพบว่ามีการคั่งของน้ำหล่อเลี้ยงไขสันหลังและสมองร่วมกับอาการผิดปกติทางระบบประสาท ได้แก่ สมองเสื่อม เดินเซ และปัสสาวะราด (หรือกลั้นปัสสาวะไม่ได้)

 

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติมีกลไกการเกิดอย่างไร?

ภาวะนี้เกิดจาก การดูดซึมของน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง (Cerebrospinal fluid : CSF)กลับเข้าสู่หลอดเลือดดำสมองไม่สะดวก จึงเกิดการคั่งของ CSF ในโพรงสมอง (Ventricle) ส่งผลให้โพรงสมองโตขึ้น โดยค่อยๆมีการขยายตัวโตขึ้นช้าๆ และส่งผลต่อเนื้อเยื่อสมอง จนก่อให้เกิดอาการผิดปกติดังกล่าวข้างต้นในบทนำ แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยถึงแม้จะมีการคั่งของน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง แต่ความดันในโพรงสมองก็ยังเป็นปกติ ไม่มีการเพิ่มขึ้นของความดันแต่อย่างไร จึงเป็นที่มาของชื่อภาวะนี้ คือ “ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ”

 

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติมีสาเหตุจากอะไร?

สาเหตุของภาวะนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ

  • กลุ่มที่หาสาเหตุไม่พบ คือ มีการดูดซึม CSF กลับเข้าหลอดเลือดดำลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • กลุ่มที่หาสาเหตุพบ เช่น
    • มีภาวะเลือดออกในชั้นใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นที่เรียกว่า อะแรชนอยด์ (Arachnoid) ที่เรียกภาวะเลือดออกนี้ว่า Subarachnoid hemorrhage
    • ภาวะติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง/เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
    • อุบัติเหตุต่อสมอง (Traumatic brain injury) เช่น ศีรษะถูกกระแทกอย่างแรงจากถูกรถชน หรือ ล้ม หรือ ตกจากที่สูง

 

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติพบบ่อยไหม?ใครมีโอกาสเกิดบ้าง?

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกตินี้ พบบ่อยในผู้สูงอายุ ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป พบได้ใกล้เคียงกันทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างไรก็ตาม เป็นภาวะพบได้ไม่บ่อยนัก ประมาณ 1-5 คน ต่อประชากร 100,000 คน และพบเป็นสาเหตุของโรคสมองเสื่อมประมาณร้อยละ 9-14 (9-14%)

 

ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลว่า ภาวะนี้ มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม และมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ นอกจาก อายุ และโรค ดังที่ได้กล่าวข้างต้นในหัวข้อ สาเหตุ

 

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกตินี้มีอาการอย่างไร?

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกตินี้พบบ่อยในผู้สูงอายุ อาการประกอบด้วย

  • สมองเสื่อม ซึ่งจะมีอาการเด่นด้านการเคลื่อนไหวผิดปกติ ความสนใจและสมาธิไม่ดี สูญเสียด้านความจำระยะสั้น โดยอาการเหล่านี้จะค่อยเป็นค่อยไปในระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี
  • เดินเซ ผู้ป่วยอาจมีอาการ มึนงง/วิงเวียน เดินลำบาก/เดินขัด เริ่มต้นอาจเดินลำบากเวลาขึ้นบันได และ/หรือ เดินขึ้นลงทางลาดชัน และ/หรือ เมื่อลุกขึ้นยืนแล้วจะเดินลำบาก และต่อๆมาจึงเดินเซ เดินต้องกางขากว้างเพื่อช่วยพยุงตัว
  • ปัสสาวะราด โดยเริ่มต้น จะมีอาการปัสสาวะบ่อย กลั้นไม่ได้ และปัสสาวะราดในที่สุด

 

แพทย์ให้การวินิจฉัยภาวะภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติได้อย่างไร?

แพทย์ให้การวินิจฉัยภาวะนี้ได้ โดยจะพิจารณาจาก

  • อาการผิดปกติข้างต้นในหัวข้อ ‘อาการฯ’
  • ร่วมกับการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง หรือ แม่เหล็กไฟฟ้า (เอมอาร์ไอ)สมอง ที่จะตรวจพบว่า มีการขยายตัวใหญ่ขึ้นของโพรงสมองโดยไม่พบว่ามีการเหี่ยวของสมอง (ภาวะสมองฝ่อ)
  • ต่อจากนั้น แพทย์จะเจาะระบาย CSF ออกมา/การเจาะหลัง/ การเจาะน้ำไขสันหลัง จำนวนประมาณ 30 ซีซี (cc. หรือ Cubic centimeter) และประเมินอาการผู้ป่วยหลังการเจาะหลังโดยเฉพาะการเดินว่าดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งถ้าดีขึ้น ก็ช่วยสนับสนุนการวินิจฉัยภาวะนี้

 

การรักษาภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติควรทำอย่างไร?

การรักษาภาวะนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ

  • การรับประทานยาลดการสร้าง CSF (เช่น ยา Carbonic anhydrase inhibitors) ซึ่งผู้ป่วยบางรายที่อาการไม่รุนแรง หลังจากเจาะระบาย CSF ออกมาแล้ว อาการดีขึ้น การให้รับประทานยาลดการสร้าง CSF ก็มักมีอาการดีขึ้น
  • การผ่าตัดวางสาย/ท่อระบาย CSF จากโพรงน้ำในสมองลงมาสู่ในช่องท้อง ข้อบ่งชี้ของการผ่าตัดวางสายระบายน้ำ คือ
    • กรณีไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
    • หรือต้องเจาะระบาย CSF ซ้ำบ่อยๆ (อ่านเพิ่มเติมในบทความเรื่อง การเจาะน้ำไขสันหลัง)
    • หรือกรณีผู้ป่วยมีอาการรุนแรงตั้งแต่ต้น

 

การผ่าตัดวางสายระบาย CSFจากโพรงน้ำในสมองลงมาในช่องท้องมีอันตรายหรือไม่?

การผ่าตัดดังกล่าว ค่อนข้างปลอดภัย โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน/ผลข้างเคียงจากการผ่าตัด เช่น เลือดออกในโพรงสมอง พบน้อยมาก และ/หรือการติดเชื้อในโพรงสมองก็พบน้อยมากเช่นเดียวกัน

 

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติรักษาหายหรือไม่? ทำให้เกิดอัมพาตได้ไหม?

การรักษาภาวะนี้ได้ผลดี/มีการพยากรณ์โรคที่ดี ร้อยละ 70-90 (70-90%) โดยเฉพาะการผ่าตัดวางสาย/ท่อระบาย CSF จากโพรงน้ำในสมองลงในช่องท้อง ผู้ป่วยจะมีอาการต่างๆทีค่อยๆดีขึ้นอย่างช้าๆ รวมทั้งอาการสมองเสื่อมก็จะดีขึ้นมากอย่างช้าๆเช่นกัน

 

แต่ถ้าผู้ป่วยได้รับการรักษาล่าช้า ก็จะส่งผลให้ภาวะนี้เป็นมากขึ้น จนผู้ป่วยเดินไม่ได้ สมองเสื่อมรุนแรง และต้องนอนติดเตียง จึงอาจเหมือนสภาพอัมพาตได้ ซึ่งภาวะสมองเสื่อมรุนแรง เดินไม่ได้ ปัสสาวะราด จะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุเสียชีวิตได้

 

ควรดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไร?

การดูแลตนเองเมื่อมีภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ คือ

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาลที่ให้การรักษา
  • กินยาที่แพทย์สั่ง ให้ครบถ้วน ถูกต้อง
  • ระวังการล้ม และอุบัติเหตุต่างๆ
  • ฝึกการปัสสาวะให้เป็นเวลา
  • การฝึกสมอง(ออกกำลังสมอง) เพื่อเป็นการป้องกันหรือชะลอการเสื่อมของสมอง
  • กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน ในปริมาณที่ไม่ทำให้เกิดน้ำหนักตัวเกิน หรือ โรคอ้วน และปัจจุบัน ไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ว่า ต้องห้ามทานอาหารชนิดใด
  • พบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดเสมอ
  • พบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนนัดเสมอเมื่อ
    • อาการต่างๆเลวลง เช่น เดินเซมากขึ้น
    • มีอาการผิดปกติที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น ปวดศีรษะเรื้องรัง
    • มีผลข้างเคียงจากยาที่แพทย์สั่งจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ขึ้นผื่น วิงเวียนศีรษะมาก
    • เมื่อกังวลในอาการ

 

ป้องกันภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติได้ไหม?

ภาวะนี้ ป้องกันได้โดย

  • การสังเกตอาการผิดปกติในผู้สูงอายุ ถ้าพบความผิดปกติเพียงเล็กน้อย ควรรีบพามาแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อตรวจประเมิน เพื่อการรักษาแต่เนิ่นๆ ก่อนเกิดภาวะสมองเสื่อมอย่างรุนแรง
  • นอกจากนั้น คือ ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ศีรษะ ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ที่ป้องกันได้ เช่น
    • การสวมหมวกนิรภัยเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์
    • การใช้เข็มขัดนิรภัยเมื่อใช้รถ
    • การไม่ดื่มสุราเมื่อจะต้องขับรถ และการง่วงไม่ขับ เป็นต้น

 

สรุป

จะเห็นได้ว่า ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคสมองเสื่อม หรือ เดินเซ ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินว่าเกิดจากภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ หรือไม่เพราะเป็นโรคที่รักษาได้ผลดี และมีโอกาสหายสูง จงช่วยกันสังเกต ผู้สูงอายุในบ้าน ว่า มีอาการผิดปกติหรือไม่ อย่างไร ถ้าพบหรือสงสัยอย่ารอช้า รีบพามาพบแพทย์ทันที