พาร์กินสัน: ตอนที่ 8 ต้องเป็นคนมีวินัย ตรงเวลา ตรงขนาด

พาร์กินสัน-8


การทานยารักษาโรคพาร์กินสันเป็นการรักษาหลักที่ผู้ป่วยเกือบทุกคนต้องใช้วิธีนี้ การทานยาในการรักษาโรคอื่นๆ ก็จะมีการทานยาก่อนอาหาร หลังอาหาร ก่อนนอน หรือการทานยาเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น อาการปวดศีรษะ อาการท้องผูก หรือนอนไม่หลับ เป็นต้น แต่การทานยารักษาโรคพาร์กินสันนั้น เนื่องจากเราต้องการให้มีการใช้ยากลุ่มลีโวโดปาให้น้อยที่สุด ในขนาดที่ทำให้อาการดีพอสมควร ใช้ชีวิตได้ปกติ หรืออาจช้าหรือมีอาการสั่นบ้างแต่ไม่ค่อยส่งผลต่อการใช้ชีวิต ดังนั้นวิธีการทานยาจึงอาจไม่ได้เหมือนกับการทานยาในการรักษาโรคอื่นๆ

การทานยารักษาโรคด้วยการใช้ยากลุ่มลีโวโดปานั้น แพทย์จะเริ่มต้นให้มีการทานยาขนาดน้อยมาก คือ ขนาด 1 ส่วน 4 ของยาขนาด 250 มก. หรือประมาณ 62.5 มก. เท่านั้น โดยอาจเริ่มให้ทานเพียงวันละ 2-3 ครั้งเท่านั้น ขึ้นกับอาการของผู้ป่วย และจะแนะนำให้ทานยาขนาดนี้ไปนานมากที่สุดเท่าที่อาการของผู้ป่วยยังดีและสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ เนื่องจากการใช้ยาขนาดสูงและนานก็จะทำให้โรคเป็นมากขึ้น มีภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาเร็วขึ้น รุนแรงขึ้น

ถ้าอาการผู้ป่วยไม่มาก ไม่รุนแรง อายุก็น้อย แพทย์จะเริ่มให้การรักษาด้วยยากลุ่มโดปามีน เพราะมีข้อมูลจากการศึกษาว่าจะสามารถชะลอการเสื่อมของโรคพาร์กินสันได้ แต่ถ้าเปรียบเทียบประสิทธิภาพการรักษาอาจไม่ดีเท่ากับยากลุ่มลีโวโดปา การเริ่มทานยากลุ่มโดปามีนนั้นแพทย์จะเริ่มให้ยาขนาดต่ำๆ ก่อน เริ่มทานวันละ 1-2 ครั้งก่อน เพราะต้องระมัดระวังการเกิดผลเสียของยา เช่น วิงเวียน อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ ทานอาหารไม่ได้ เมื่อทานยากลุ่มนี้แล้วอาการดีขึ้นไม่มาก แพทย์ก็จะค่อยๆ เพิ่มยา และถ้าเพิ่มขนาดยาจนสูงแล้ว หรือไม่สามารถทนต่อฤทธิ์ยาได้ แพทย์ก็อาจจะเพิ่มยากลุ่มลีโวโดปาเข้าไปอีกหนึ่งชนิด เพื่อให้การรักษาอาการของโรคพาร์กินสันดีขึ้น

การรักษาด้วยยาทั้ง 2 กลุ่มนั้น สิ่งสำคัญคือการเริ่มยาขนาดต่ำๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มขนาด ทานยาให้ตรงเวลา ถ้าดีก็อยากให้ห่างจากมื้ออาหาร 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพราะยาทั้ง 2 ชนิดนั้นมีการตีกันระหว่างยาและอาหารได้ง่าย การทานยานั้นควรจะต้องทานตามที่แพทย์แนะนำ ไม่ควรเพิ่มขนาดยาเอง แต่ถ้าทนผลแทรกซ้อนของยาไม่ได้ ก็สามารถลดขนาดยาลงได้ และเมื่อมาพบแพทย์ก็ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยว่าได้มีการปรับลดยาลง เพราะอะไร และทานยาอย่างไร

ทำไมต้องทานยาให้ตรงเวลา เพราะต้องการให้ระดับยาและสารสื่อประสาทมีระดับคงที่ ไม่แกว่งไปมา สูงหรือต่ำกว่าระดับยาที่ได้ผลในการรักษา เพราะการแกว่งไปมาของระดับยานั้นอาจส่งผลให้การรักษาไม่ได้ผล และอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาได้ในระยะยาว

การเพิ่มยาเองก็ไม่ควรเพิ่ม ถึงแม้การเพิ่มยาอาจทำให้อาการดีขึ้น แต่การเพิ่มยาจนขนาดยาสูงเกิน พอใช้ยาเป็นระยะเวลานานๆ ก็จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าผู้ป่วยที่ใช้ยาขนาดต่ำๆ

ดังนั้นการทานยาเพื่อรักษาโรคพาร์กินสันนั้นต้องทานยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่ออนาคตของตัวท่านเอง