พาร์กินสัน:ตอนที่ 23 ธรรมกับพาร์กินสัน

พาร์กินสัน-23


การรักษาโรคพาร์กินสันนั้นเป็นที่ทราบดีแล้วว่าไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงคนอื่นๆ ถ้าได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมร่วมกับการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้ป่วยบางรายถึงแม้จะได้รับการรักษาอย่างดี แต่โรคก็เป็นมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับความทุกข์ ถึงแม้จะไม่เสียชีวิตแต่ก็ทุกข์มากขึ้น ผู้ป่วยบางคนมีความทุกข์มาก แต่บางคนกับไม่ทุกข์มาก ผมจึงได้พูดคุยกับผู้ป่วยรายหนึ่งว่าเป็นเพราะอะไร ถึงดูเหมือนไม่ทุกข์เลย ทุกครั้งที่มาตรวจก็นั่งรถเข็น และมาพร้อมรอยยิ้ม

“คุณลุงครับ ผมขอถามอะไรคุณลุงหน่อยนะครับ ผมว่าอาการของคุณลุงก็เป็นมากพอสมควร เดินเองก็ไม่ได้ ช่วยเหลือตนเองก็ไม่ได้ แต่ผมสังเกตว่าคุณลุงดูมีความสุข ยิ้มทุกครั้งที่มาหาผม ไม่เห็นว่าลุงมีความทุกข์เลยครับ คุณลุงมีวิธีคิดอย่างไรครับที่ทำให้ไม่ทุกข์”

คุณลุงได้เล่าให้ผมฟังว่า “ทำไมลุงจะไม่ทุกข์หมอ ผมก็คนครับ เจ็บปวดเหมือนคนอื่นๆ ผมเองก็เคยทุกข์เหมือนๆ กับคนอื่นๆ เขา แต่ผมโชคดีครับที่ผมเป็นคนที่ชอบเข้าวัดมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ ช่วงที่ผมมีอาการรุนแรง เดินไม่ได้ หยิบจับอะไรไม่ได้ ผมทุกข์หนักมากครับ ผมได้พบหลวงพ่อที่วัด ท่านได้บอกกับลุงว่า ชีวิตคนมีทุกข์ ก็มีสุขได้ ทำไมเราถึงต้องไปทุกข์กับชีวิตมันด้วย การที่เราเป็นพาร์กินสันนั้น เพราะอะไร เพราะเราทำตัวไม่ดีหรือเปล่า เป็นเพราะเหล้า บุหรี่หรือเปล่า ก็ไม่ใช่ มันเกิดขึ้นมาเอง ถ้าพูดแบบภาษาพระก็เป็นกรรมที่ติดตัวเรามา แล้วเราไปทุกข์กับมัน มันก็ไม่หาย มันยิ่งทำให้เราทุกข์มากยิ่งขึ้น ถ้าเราไม่ทุกข์ เรายอมรับมัน แล้วทำความเข้าใจกับธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตว่ามีเกิด แก่ เจ็บ ตาย จะทุกข์ไปทำไม ถ้าทุกข์ก็ให้ทุกข์สั้นๆ อย่าทุกข์ไปตลอด ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก พอลุงได้ยินคำสอนของพระ ก็นำมาปฏิบัติ ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แบบตอนนี้”

ผมได้ฟังคุณลุงเล่า ก็เข้าใจทันทีครับ เพราะหลายต่อหลายครั้งที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ป่วยที่ปรับตัวได้หลังจากพบมรสุมชีวิต ทุกคนก็ได้ธรรมเป็นเครื่องจรรโลงชีวิตทั้งสิ้น ผมจึงมักจะแนะนำผู้ป่วยว่าถ้าทำอะไรไม่ได้ ก็ให้ศึกษาธรรมไว้ครับ เพราะสามารถช่วยเราได้ตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตายได้ครับ