คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน: ผลการรักษาโรคมะเร็ง ตอนที่ 3 (ตอนจบ)

คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง

ขอเล่าต่อถึงเหตุผลที่ไม่ใช่เฉพาะระยะโรคมะเร็งเท่านั้นที่เป็นตัวบอกการพยากรณ์โรค แต่มีปัจจัยสำคัญอีกหลายปัจจัย ที่เป็นข้อมูลเชิงลึกที่แพทย์มะเร็งผู้ให้การรักษาผู้ป่วยเท่านั้นที่จะทราบ ซึ่งเล่าไปแล้วใน 2 ตอน ครั้งนี้เป็นตอนที่ 3 และเป็นตอนจบของเรื่องนี้

ลักษณะเฉพาะทางพยาธิวิทยาของก้อนมะเร็งโดยเฉพาะจากก้อนมะเร็งหลังการผ่าตัด

ลักษณะเฉพาะทางพยาธิวิทยาของก้อนมะเร็ง จะมี 2 แบบ คือ ที่ได้จากการตัดชิ้นเนื้อครั้งแรกที่ตรวจวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ และเมื่อมีการผ่าตัดรักษา จะมีผลพยาธิการตรวจก้อนเนื้อที่ได้จากการผ่าตัด(สำคัญมากที่สุด) ซึ่งผู้ป่วยเมื่อได้รับมาแล้วควรสำเนาเก็บไว้เป็นประวัติส่วนตัว เพราะจะเป็นตัวบอกชนิดของโรคมะเร็ง ความรุนแรง/การพยากรณ์โรค รวมไปถึงใช้บอกแนวทางในการรักษาโรคกับแพทย์ ซึ่งการตรวจเหล่านี้ เป็นการตรวจที่มักตรวจซ้ำได้ยาก

การพยากรณ์โรคจากลักษณะทางพยาธิวิทยา คือ

  • ชนิดของเซลล์มะเร็ง ที่เป็นตัวบอกธรรมชาติของโรคมะเร็งว่า รุนแรงมาก ปานกลาง หรือรุนแรงน้อย และตอบสนองได้ดีต่อยาเคมีบำบัดและ/หรือรังสีรักษาหรือไม่
  • การแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ว่าแบ่งตัวน้อย ปานกลาง มาก ยิ่งแบ่งตัวมาก การพยากรณ์โรคยิ่งเลว เพราะเซลล์มะเร็งจะลุกลามแพร่กระจายได้สูงและอย่างรวดเร็ว
  • การมีเซลล์มะเร็งลุกลามเข้า หลอดเลือด เส้นประสาท เนื้อเยื่อข้างเคียง อวัยวะข้างเคียง มีเซลล์มะเร็งในหลายจุดของอวัยวะ และ/หรือทะลุออกนอกเยื่อหุ้มมะเร็ง หรือเยื่อหุ้มอวัยวะ ถ้ามีปัจจัยเหล่านี้ การพยากรณ์โรคก็ไม่ดี เพราะแสดงว่า โรครุนแรง
  • การที่ผ่าตัดก้อนมะเร็งออกได้ไม่หมด(ตรวจได้จากทางกล้องจุลทรรศน์) ก็เป็นตัวบอกการพยากรณ์โรค ที่ไม่ดี และจำเป็นต้องมีการรักษาต่อเนื่อง อาจต้องผ่าตัดซ้ำ รังสีรักษา และ/หรือยาเคมีบำบัด
  • จำนวนต่อมน้ำเหลืองที่ผ่าได้ทั้งหมด ยิ่งผ่าออกได้มาก การพยากรณ์โรคจะดีกว่า รวมทั้งจำนวนต่อมน้ำเหลืองที่มีโรคมะเร็งลุกลาม ยิ่งลุกลามมาก การพยากรณ์โรคยิ่งเลว

การตอบสนองต่อการรักษา

เมื่อผู้ป่วยได้เริ่มการรักษาไปแล้ว ก้อนมะเร็งมีการตอบสนองต่อการรักษาอย่างไร เช่น ถ้ายุบหมด หลังได้ยาเคมีบำบัดเพียงครั้งเดียว การพยากรณ์โรคก็จะดี แต่ถ้าได้รับยาแล้ว 3-4 ครั้งก้อนมะเร็งยังคงขนาดเท่าเดิม ผลการรักษาก็ไม่ดี และการพยากรณ์โรคจะไม่ดีอย่างยิ่ง ถ้าขณะกำลังรักษา พบโรคลุกลามแพร่กระจาย

อายุ

ผู้ป่วยที่เป็นเด็กอ่อน และผู้สูงอายุ การพยากรณ์โรคจะแย่กว่ากลุ่มอายุอื่น เพราะร่างกายมักทนการรักษาไม่ไหว ในเด็กอ่อนจากอวัยวะต่างๆยังเจริญเติบโตทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่วนในผู้สูงอายุ อวัยวะทุกอวัยวะเสื่อมสภาพตามอายุ

สุขภาพโดยรวมที่รวมถึงโรคประจำตัวต่างๆ

สุขภาพโดยรวมที่รวมถึงการมีโรคประจำตัวต่างๆ โดยเฉพาะเบาหวาน และความดันโลหิตสูง เพราะจะส่งผลต่อภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย ส่งผลให้ไม่สามารถรับการรักษาได้เต็มที่ตามแผนการรักษาของแพทย์ การพยากรณ์โรคจึงแย่กว่าในคนทั่วไป

การรักษาที่เป็นไปตามแผนการรักษาหรือไม่

การรักษามะเร็งที่เป็นไปตามแผนการรักษา ทั้งนี้รวมทั้ง ปริมาณยาหรือปริมาณรังสี(Dose) และระยะเวลาทั้งหมดที่ใช้ในการรักษาว่าต้องมีการเลื่อนออกไป อาจด้วยเหตุผลของสภาพไขกระดูกไม่อำนวย(ไขกระดูกทำงานได้ต่ำ ซึ่งจะเป็นปัจจัยต้องพักการรักษา เพราะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รุนแรงถึงขั้น เสียขีวิตได้) หรือ สภาพของไต ของตับ ที่กำจัดของเสียไม่ได้ จนเป็นสาเหตุเสียชีวิตได้เช่นกัน

หรือจากการที่ผู้ป่วยหยุดการรักษาไปเอง หันไปรับรักษาด้วยการแพทย์ทางเลือก ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมให้มีโรคลุกลามแพร่กระจายมากขึ้น และร่างกายขาดสารอาหารมากขึ้น เมื่อกลับมารักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน ผลการรักษาจึงมักไม่ดี การพยากรณ์โรคจึงเลวลงเป็นอย่างมาก

สรุป

จากเหตุผลทั้งหมดที่เล่าให้ทราบ จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ผู้ป่วยและครอบครัว ควรสอบถามผลการรักษา/การพยากรณ์ กับแพทย์โรคมะเร็งที่ให้การรักษาผู้ป่วย จึงจะทราบถึงการพยากรณ์โรคที่ถูกต้อง ชัดเจน การทราบแต่เพียงระยะโรค จะบอกการพยากรณ์โรคได้เพียงโดยประมาณเท่านั้น


พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์