คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง: ตอน มะเร็งระยะแพร่กระจาย คืออะไร?

เมื่อพูดถึงโรคมะเร็ง สิ่งที่ทุกคนกลัวกันมาก คือ “มะเร็งระยะแพร่กระจาย [Distant metastasis/ metastases (เมื่อเป็นพหูพจน์) หรือ Distant spreading] “ ซึ่งมันคืออะไร

มะเร็งระยะแพร่กระจาย หรือที่ทราบกันว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ที่เกือบทั้งหมด คือระยะที่ 4 คือมะเร็งที่เซลล์มะเร็งเป็นชนิดเดียวกับที่เกิดที่จุดเริ่มต้น แต่เซลล์มะเร็งได้รุกรานเข้าไปในหลอดเลือด และ/หรือระบบน้ำเหลือง ส่งผลให้เมื่อเซลล์ในหลอดเลือดและ/หรือระบบน้ำเหลือง เดินทางไปถึงเนื้อเยื่อ/อวัยวะอื่นๆที่ไม่ใช่จุดตั้งต้น ทั่วร่างกาย ก็เกิดการเจริญเติบโตขึ้นในเนื้อเยื่อ/อวัยวะเหล่านั้น ส่งผลให้เกิดมะเร็งชนิดเดียวกันได้ตลอดทั่วตัวผู้ป่วย ทั้งนี้เมื่อมันเจริญเติบโต ในบางเนื้อเยื่อ/อวัยวะ มะเร็งจะเติบโตเร็วจึงมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำลายเซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ/อวัยวะนั้นๆลง ส่งผลให้เนื้อเยื่อ/อวัยวะนั้นๆทำงานไม่ได้ จึงเกิดเป็นอาการผิดปกติต่างๆขึ้น โดยอาการจะขึ้นกับการทำงานของอวัยวะนั้นๆ เช่น ปอด ก็จะมีอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก/หายใจติดขัด เป็นต้น หรือถ้าไปกระดูกก็จะก่ออาการปวด และถ้าไปกระดูกสันหลังแล้วลามเข้าไขสันหลังก็จะมีทั้งอาการปวดหลังและอัมพาต ถ้าไปตับก็จะมีอาการแน่นอึดอัดในท้องจากตับโต และมีน้ำในท้อง แน่นหายใจไม่ได้จากมีน้ำในท้องและไปดันปอด กินไม่ได้ ตัว ตาเหลือง เป็นต้น แต่บางตำแหน่งที่มะเร็งแพร่กระจาย ถ้าสิ่งแวดล้อมไม่อำนวย เซลล์มะเร็งไม่เจริญเติบโต ผู้ป่วยก็จะไม่มีอาการ แต่แพทย์ตรวจพบได้จากเมื่อมีการตรวจศพภายหลังผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว(Autopsy)

อวัยวะที่โรคมะเร็งแพร่กระจายไปสูงและเจริญเติบโตได้ดี คือ อวัยวะที่มีเลือดไปเลี้ยงสูง และ/หรือมีระบบน้ำเหลืองมากมาย เช่น ต่อมน้ำเหลือง ปอด ตับ กระดูก ไขกระดูก และสมอง

มะเร็งทุกชนิด มีคุณสมบัติแพร่กระจาย เพียงแต่มากน้อยต่างกัน ขึ้นกับธรรมชาติของโรคแต่ละชนิดมะเร็ง

มะเร็งจะเริ่มแพร่กระจายได้เมื่อไร: ทั้งนี้มะเร็งแพร่กระจายได้ตั้งแต่เซลล์มะเร็งรุกรานถึงหลอดเลือดและ/หรือระบบน้ำเหลือง แต่ถ้าปริมาณเซลล์ในหลอดเลือด/ระบบน้ำเหลืองยังมีน้อย ภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายจะควบคุมเซลล์เหล่านี้ไม่ให้เจริญแบ่งตัว หรือให้มีการฝังตัวในเนื้อเยื่อ/อวัยวะจนกลายเป็นก้อนมะเร็งที่ก่ออาการได้ ซึ่งเหตุผลนี้เป็นคำตอบที่ว่า เป็นมะเร็งรักษาหายหลายปีแล้ว ต่อมาพบมีโรคแพร่กระจายได้ ทั้งนี้เพราะเราไม่สามารถรักษาให้เซลล์มะเร็งทุกเซลล์หมดไปจากร่างกายเราได้ ที่ทำได้ คือให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่ระบบภูมิคุมกั้นต้านทานโรคของเราจะควบคุมได้ ดังนั้น การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงถึงได้เป็นวิธีหนึ่งที่ป้องกันโรคมะเร็งแพร่กระจาย/เกิดการฝังตัว เจริญเติบโต

แพทย์วินิจฉัยมะเร็งระยะแพร่กระจายได้อย่างไร: แพทย์วินิจฉัยมะเร็งระยะแพร่กระจาย จากประวัติการเป็นมะเร็ง อาการ การตรวจร่างกาย การตรวจเลือดดูค่าสารมะเร็ง และการตรวจภาพเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่สงสัยด้วย เอกซเรย์ อัลตราซาวด์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เอมอาร์ไอ เพทสะแกน และ/หรือ การสะแกน กระดูก บางครั้งอาจมีการส่องกล้อง และ/หรือ การตรวจเซลล์ หรือชิ้นเนื้อด้วยการตรวจทางพยาธิวิทยา ซึ่งวิธีการเหล่านี้ ก็คือวิธีเดียวกับที่ใช้วินิจฉัยมะเร็งทั่วไปนั่นเอง

รักษามะเร็งระยะแพร่กระจายอย่างไร: วิธีรักษามะเร็งระยะแพร่กรัจายนี้เช่นเดียวกับวิธีรักษามะเร็งที่เป็นต้นกำเนิด เช่น การผ่าตัด รังสีรักษา ยาเคมีบำบัด ฮอร์โมน ยารักษาตรงเป้า และการรักษาประคับประคองตามอาการ เป็นต้น

ผลการรักษาเป็นอย่างไร: เกือบทั้งหมด เมื่อมีมะเร็งแพร่กระจายแล้ว จะรักษาไม่หาย (ยกเว้นมะเร็งบางชนิดน้อยๆมากๆที่อาจรักษาหาย เช่น มะเร็งอัณฑะบางชนิด) ผู้ป่วยมักมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี หรือต่ำกว่า ขึ้นกับสุขภาพผู้ป่วย, ชนิดของเซลล์มะเร็ง, จำนวนและตำแหน่งที่โรคแพร่กระจาย, การควบคุมโรคที่จุดเกิดโรคว่าได้ผลหรือไม่, และธรรมชาติของเซลล์มะเร็งที่เป็นชนิดตอบสนองที่ดีต่อยาเคมีบำบัด และ/หรือต่อฮอร์โมน

ดังนั้น ส่วนใหญ่การรักษาโรคมะเร็งระยะแพร่กระจาย แพทย์จึงดูจากสุขภาพผู้ป่วย อายุ อาการ และชนิดของเซลล์มะเร็งเป็นหลัก ว่า จะเลือกวิธีการใด ที่จะเหมาะสมกับผู้ป่วยมากที่สุด

บรรณานุกรม

- http://www.cancer.gov/cancertopics/factsheet/Sites-Types/metastatic [2014,May23].