คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอนวิธีรักษามะเร็งขณะตั้งครรภ์
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 5 มิถุนายน 2560
- Tweet
มะเร็งที่เกิดในผู้หญิงอายุน้อย/วัยยังมีประจำเดือนพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็พบได้เรื่อยๆประมาณ 1รายในการตั้งครรภ์ทุกๆ3,000ราย ซึ่งมะเร็งที่พบได้ในวัยนี้ที่พบบ่อยที่สุด คือ มะเร็งเต้านม รองลงไปตามลำดับได้แก่ มะเร็งในระบบโลหิตวิทยา(เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง) มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา
วิธีการรักษามะเร็งในหญิงตั้งครรภ์จะเช่นเดียวกับในภาวะไม่ได้ตั้งครรภ์ คือ การผ่าตัด รังสีรักษา ยาเคมีบำบัด ยารักษาตรงเป้า และ/หรือ ยาฮอร์โมน ส่วนจะใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง
การผ่าตัด: เป็นวิธีรักษาที่ทำได้ในทุกระยะของการตั้งครรภ์ โดยแพทย์จะคำนึงถึงผลกระทบจากยาสลบต่อทารกในครรภ์เป็นหลักสำคัญร่วมด้วยเสมอ ทั้งนี้ยาสลบไม่มีผลต่อความพิการของทารกในครรภ์
รังสีรักษา ยารักษาตรงเป้า และยาฮอร์โมน เป็นการรักษาที่มีผลให้ทารกในครรภ์เกิดความพิการได้ในทุกช่วงของการตั้งครรภ์ ดังนั้นแพทย์จึงหลีกเลี่ยงวิธีเหล่านี้ในขณะตั้งครรภ์ จะใช้ต่อเมื่อผู้ป่วยคลอดบุตรแล้ว
ยาเคมีบำบัด มีหลากหลายชนิด บางชนิดทำให้ทารกเกิดความพิการ บางชนิดไม่ทำให้ทารกเกิดความพิการถ้าใช้รักษาเมื่ออายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป แต่อาจทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนด หรือมีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ ดังนั้นแพทย์จะเลือกใช้ยา กลุ่มนี้เมื่อมีความจำเป็น และจะใช้เมื่อผู้ป่วยตั้งครรภ์เกิน 3 เดือนไปแล้ว
ยาเคมีบำบัด ยารักษาตรงเป้า และยาฮอร์โมน ผ่านออกมาทางน้ำนมได้ ดังนั้น แพทย์จึงแนะนำงดเลี้ยงบุตรด้วยน้ำนมแม่ ช่วงการรักษาด้วยยาเหล่านี้ แต่สามารถรักษามารดาด้วยรังสีรักษาได้ เพราะเป็นการให้การรักษาเฉพาะที่ ไม่มีรังสีผ่านเข้าสู่น้ำนมมารดา
ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตั้งครรภ์ แพทย์มักไม่รอให้ทารกในครรภ์ครบกำหนดคลอด แต่เมื่อทารกในครรภ์เจริญเติบโตจนมีโอกาสรอดจากการคลอดแล้ว แพทย์มักแนะนำให้มารดาคลอดก่อนกำหนด เพื่อเริ่มการรักษามะเร็งได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีผลกระทบต่อทารกในครรภ์
ดังนั้นการรักษามะเร็งในหญิงตั้งครรภ์ ทางการแพทย์จะใช้หลายวิธีการร่วมกัน ตามชนิดของมะเร็ง ระยะโรคมะเร็ง และระยะเวลาในการตั้งครรภ์ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างแพทย์ ผู้ป่วย และครอบครัวของผู้ป่วย
ดังนั้นในผู้ป่วยมะเร็งที่ยังมีประจำเดือนโดยยังไม่ตั้งครรภ์ จึงควรคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัดด้วยวิธีการที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้การรักษามะเร็งสามารถดำเนินไปได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ซึ่งจะได้ประโยชน์สูงสุดในการรักษากับตัวผู้ป่วยเอง
แหล่งข้อมูล: