logo

คำถามจาก วิกิยา

Home / FAQ ยา/ ยาฆ่าเชื้อ

คำถามเกี่ยวกับยา

โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล

เรื่อง : ยาฆ่าเชื้อ

ในทางเภสัชยาฆ่าเชื้อ หมายถึงกลุ่มของสาร/ยาที่ได้จากธรรมชาติและ/หรือจากการสังเคราะห์ทางเคมี โดยเป็นสารที่มีฤทธิ์ฆ่า/หยุด/ต้านการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพ ได้แก่ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา โปรโตซัว (สัตว์เซลล์เดียว)  ปรสิต เชื้อไวรัส โดยยาฆ่าเชื้อแบ่งได้เป็นหลายกลุ่ม/ประเภทตามประเภทเชื้อที่เป็นสาเหตุซึ่งได้แก่

  1. กลุ่มที่ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย (Antibacterial drug/Antibiotic drug) เรียกว่า ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าแบคทีเรีย/ยาต้านแบคทีเรีย
  2. กลุ่มที่ใช้รักษาการติดเชื้อรา เรียกว่า ยาฆ่าเชื้อราหรือยาต้านเชื้อรา (Antifungal drugs)
  3. กลุ่มที่ใช้รักษาการติดเชื้อปรสิต หรือ สัตว์เซลล์เดียว เรียกว่า ยาฆ่าปรสิต (Antiparasitic drugs)
  4. กลุ่มที่ใช้รักษาการติดเชื้อไวรัส เรียกว่า ยาฆ่าไวรัสหรือยาต้านไวรัส (Antiviral drugs)
  1. ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย : ใช้รักษาโรคติดเชื้ออวัยวะต่างๆ ที่มีสาเหตุจากแบคทีเรีย  เช่น  การติดเชื้อแบคทีเรียของระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ
  2. ยาต้านเชื้อรา: ใช้รักษาการติดเชื้อราของอวัยวะต่างๆ เช่น การติดเชื้อราที่ผิวหนัง (เช่น กลาก เกลื้อน น้ำกัดเท้า) ที่สมอง ที่ปอด
  3. ยาต้านปรสิต สัตว์เซลล์เดียว: ใช้รักษาโรคอวัยวะต่างๆ ที่เกิดจากปรสิต เช่น โรคไข้จับสั่น ตืดหมู ตืดวัว พยาธิไส้เดือน
  4. ยาต้านไวรัส: ใช้รักษาโรคอวัยวะต่างๆ ที่เกิดจากติดเชื้อไวรัส เช่น โรคเริม อีสุกอีใส งูสวัด เอชไอวี
  1. ไม่ควรซื้อยาฆ่าเชื้อมากินเอง เพราะยาฆ่าเชื้อมีหลายชนิดซึ่งการใช้ขึ้นกับชนิดของเชื้อและความรุนแรงของอาการ จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยาเพื่อที่จะใช้ยาฆ่าเชื้อได้ถูกกับโรค ทำให้การรักษาได้ผล นอกจากนี้เพื่อป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา ต้องใช้ยาให้ครบตามแพทย์สั่งไม่หยุดใช้ยาเองถึงแม้อาการจะหายแล้ว
  2. ยาฆ่าเชื้ออาจผ่านรกหรือออกมากับน้ำนม ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร  ต้องเลือกใช้ยาฆ่าเชื้อในขนาดต่ำที่สุดที่ให้ผลในการรักษา และหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เช่น ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (เช่น กลุ่มเตตร้าไซคลิน/Tetracycline อีริโทรมัยซิน/Erythromycin) และยาต้านเชื้อรา กรีสซิโอฟูลวิน/Griseofulvin) เป็นต้น  ดังนั้น
  3. ข้อที่ควรต้องทราบและปฏิบัติ คือ ต้องใช้ยาปฏิชีวนะตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น  ห้ามซื้อยามากินเอง
  4. กรณีผู้สูงอายุและเด็ก แพทย์จะพิจารณาและระวังเรื่องปฏิกิริยาของยาและปรับขนาดยา เช่น ยาฆ่าเชื้อที่มีการเปลี่ยนแปลงตัวยาที่ตับ หรือที่ขับออกทางไต อาจทำให้อาการของโรคตับ/ไตที่เป็นอยู่ของผู้สูงอายุ  หรือในเด็กที่ไตยังทำงานไม่เต็มที่ แย่ลงกว่าเดิม หรือการใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียกลุ่มเตตร้าไซคลินในเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี จะทำให้กระดูกไม่แข็งแรงและฟันมีสีผิด เป็นต้น

ยาฆ่าเชื้อทุกชนิดมีผลข้างเคียง โดยความรุนแรงที่เกิดนั้นขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบของยาที่ใช้  โดยผลข้างเคียงที่พบมากคือ คลื่นไส้ อาเจียน และอาจเกิดอาการแพ้ยา เช่น ผื่นคัน ไปจนถึงอาการขั้นรุนแรงจนอาจเสียชีวิตได้ เช่น เกิดภาวะ Anaphylaxis

ในทางเภสัช ยาต้านอักเสบ/ยาแก้อักเสบ (Anti-inflammatory drugs) เป็นยาที่ใช้แก้อาการอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากติดเชื้อ แต่ลักษณะอาการอักเสบจะคล้ายกับการอักเสบจากติดเชื้อ ได้แก่ อาการบวม แดง ร้อน เจ็บ/ปวด และอาจมีไข้ ทั้งนี้ยาต้านอักเสบแบ่งออกเป็นยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSIAD: Non-steroidal anti-inflammatory drug) และยาต้านอักเสบสเตียรอยด์ (Glucocorticoid/Corticosteroid)