logo

คำถามจาก วิกิโรค

Home / FAQ โรค/ ปัสสาวะ

คำถามเกี่ยวกับโรค

โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล

เรื่อง : ปัสสาวะ

เป็นน้ำประมาณ 90%-95% ที่เหลือเป็นผลิตผลของเหลือจากการสันดาปเพื่อเซลล์ใช้พลังงานจาก โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ของเสียต่างๆ และสารส่วนเกินต่างๆ ที่ร่างกายไม่ต้องการ เช่น เกลือแร่ สารประกอบอินทรีย์และอนินทรีย์ ยา ฮอร์โมน สารพิษ

สี กลิ่น และความเป็นกรดด่างของปัสสาวะ

ปัสสาวะปกติจะใส ไม่ขุ่น แต่อาจขุ่นได้บ้างเล็กน้อยจากการปนเปื้อนสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศ ส่วนสีเหลืองของปัสสาวะเกิดสารในเม็ดเลือดแดงที่เรียกว่า ฮีม (Heme) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดงที่ถูกทำลายหลังหมดอายุ นอกจากนี้สีของปัสสาวะยังขึ้นกับสีของอาหารที่กิน รวมทั้ง ผัก ผลไม้ และยาที่กินด้วย

ปกติปัสสาวะจะไม่มีกลิ่นหรือมีกลิ่นแอมโมเนียจางๆ (เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสารยูเรียในปัสสาวะไปเป็นแอมโมเนีย) แต่เมื่อดื่มน้ำน้อยสารต่างๆ ในปัสสาวะจะเข็มข้นขึ้น จึงก่อให้เกิดกลิ่นตามสารนั้นๆ ได้ เช่น อาหารประเภทหัวหอม หน่อไม้ฝรั่ง เครื่องเทศ หรือจากยาบางชนิด เช่น วิตามินต่างๆ

ปัสสาวะปกติจะค่อนข้างเป็นกรดอ่อนๆ โดยค่า pH อยู่ที่ประมาณ 5.5-6.5 แต่อาจมีค่า pHอยู่ระหว่า 4.6-8 ได้ และเช่นเดียวกับสีและกลิ่น ค่า pH ขึ้นกับ ปริมาณน้ำที่ดื่ม อาหาร และยาที่กิน

ปริมาณปัสสาวะและจำนวนครั้งของการปัสสาวะต่อวัน

ในผู้ใหญ่ปกติ ปริมาณปัสสาวะต่อวันจะขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณน้ำดื่ม เครื่องดื่ม น้ำที่เป็นส่วนประกอบในอาหาร เหงื่อ ภูมิอากาศ/อุณหภูมิสิ่งแวดล้อม อาชีพ/การงาน การถ่ายเทอากาศในสถานที่ทำงานและที่อยู่อาศัย การเล่น การออกกำลังกาย ยาต่างๆ ที่บริโภค เช่น ยาขับปัสสาวะ น้ำหนักตัว โรคประจำตัว อย่างไรก็ตามปริมาณทั่วไปจะอยู่ในช่วงประมาณ 0.6-2.6 ลิตร/วัน (เฉลี่ยประมาณ 1.4 ลิตร/วัน หรือ 1-2 ลิตร/วัน) ซึ่งจะมีการขับถ่ายประมาณ 6-8 ครั้งต่อวันขึ้นกับปัจจัยต่างๆ

ประโยชน์ของการตรวจปัสสาวะ คือ สามารถใช้เป็นการตรวจเพื่อการคัดกรอง การวินิจฉัย และการติดตามผลการรักษาโรคและภาวะต่างๆ ทั้งของอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะ และโรคหรือภาวะต่างที่ไม่เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ แต่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน (เช่น การตั้งครรภ์) การสันดาปพลังงานของร่างกาย (เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคตับ) หรือการที่ร่างกายได้รับสารพิษต่างๆ (เช่น ยาเสพติด หรือการรับสารพิษจากโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว หรือ ปรอท) ตัวอย่างของความผิดปกติที่ได้จากการตรวจปัสสาวะ เช่น

  • ปัสสาวะที่มีสีผิดปกติอาจเกิดจากโรคหรือภาวะต่างๆ เช่น สีเหลืองเข้มแต่ไม่มากเกิดจากภาวะขาดน้ำ / สีเหลืองเข้มคล้ำเกิดจากโรคไวรัสตับอักเสบ โรคตับอักเสบจากสาเหตุอื่นๆ หรือโรคจากการมีการอุดกั้นทางเดินน้ำดี หรือโรคมะเร็งตับชนิดเกิดจากท่อน้ำดีในตับ / สีแดงหรือเป็นเลือดเกิดจากมีการอักเสบ แผล นิ่ว หรือมีเลือดออกในอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะ / สีขาวขุ่นเหมือนนมเกิดจากมีน้ำเหลืองหรือไขมันปน เช่น โรคเท้าช้าง
  • กลิ่นหวานเหมือนผลไม้เกิดจากโรคเบาหวาน / กลิ่นเหม็นอับเกิดจากโรคตับเรื้อรัง เช่น โรคตับแข็ง / กลิ่นเหม็นเน่าเกิดจากการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ / กลิ่นอุจจาระเกิดจากการมีรูทะลุระหว่างลำไส้ใหญ่และทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น