logo

คำถามจาก วิกิโรค

Home / FAQ โรค/ ซีสต์

คำถามเกี่ยวกับโรค

โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล

เรื่อง : ซีสต์

ซีสต์ / ถุง / ถุงน้ำ / ถุงหุ้ม เป็นภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้นได้กับเนื้อเยื่อ/อวัยวะทุกชนิดของร่างกาย ลักษณะภายนอกจะมองดูและคลำได้คล้ายก้อนเนื้อกลมๆ ซึ่งมีได้ตั้งแต่ขนาดเล็กเป็นมิลลิเมตรไปจนถึงขนาดใหญ่ได้หลายๆ เซนติเมตร มักมีลักษณะนุ่มผิวเรียบ โดยซีสต์สามารถโตขึ้นได้เรื่อยๆ ขึ้นกับชนิดเซลล์ที่ก่อให้เกิดซีสต์ แต่มักไม่ค่อยเปลี่ยนไปเป็นมะเร็ง (พบได้บาง แต่น้อยมากๆ)

ซีสต์มีได้หลายชนิด และมีสาเหตุได้หลากหลายขึ้นกับชนิดของซีสต์ โดยอาการสำคัญของซีสต์ คือ การพบก้อนที่โตช้าๆ ซึ่งอาการที่เกิดจากซีสต์จะแตกต่างกันไป ขึ้นกับตำแหน่งที่เกิดซีสต์ เช่น คลำพบก้อนเนื้อเมื่อเกิดที่ผิวหนัง ปวดศีรษะเรื้อรังเมื่อเกิดที่สมอง ปวดท้องน้อยเรื้อรังเมื่อเกิดที่รังไข่ เป็นต้น

เป็นถุงน้ำชนิดหนึ่งที่เกิดในรังไข่ ซึ่งภายในถุงน้ำจะเป็นเลือดเก่าๆ ข้นๆ สีน้ำตาลทำให้ดูเหมือนช็อกโกแลต เกิดจากการที่มีเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดไปกับเลือดประจำเดือนที่ไหลย้อนขึ้นไปในท่อนำไข่ แล้วไปตกอยู่ที่รังไข่และมีการเจริญแบ่งตัวมากขึ้น และเยื่อบุโพรงมดลูกกลุ่มนี้จะมีการลอกหลุดทำให้มีเลือดออกเป็นรอบๆ ตามรอบประจำเดือน ทำให้เกิดการสะสมเลือดที่รังไข่เป็นระยะเวลานานจนเกิดเป็นก้อนถุงน้ำเลือดหรือถุงน้ำช็อกโกแลต/ช็อกโกแลตซีสต์ขึ้นมา เป็นโรคที่สัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนเพศหญิงชนิดเอสโตรเจน จึงพบโรคนี้มากในสตรีวัยเจริญพันธุ์

อาการของถุงน้ำช็อกโกแลต เช่น ปวดประจำเดือนมากทุกเดือน ปวดท้องน้อยเรื้อรัง คลำได้ก้อนที่ท้องน้อย ปวดท้องรุนแรงเฉียบพลันในกรณีที่ถุงน้ำนี้แตก (บางครั้งเป็นส่วนน้อยผู้ป่วยอาจไม่มีอาการได้)

เป็นถุงน้ำรังไข่ชนิดหนึ่งภายในถุงน้ำประกอบด้วยเนื้อเยื่อไขมัน เส้นผม ฟัน และ/หรือกระดูกอ่อน อุบัติการณ์พบถุงน้ำรังไข่เดอร์มอยด์ / เดอร์มอยด์ซีสต์รังไข่ ได้ประมาณ 20-25 % ของเนื้องอกรังไข่ทั้งหมด โดยพบบ่อยในช่วงอายุ 10-30 ปี เกิดจากการที่มีเซลล์ที่มีความสามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆได้ (Totipotential cell) มาอยู่ที่บริเวณรังไข่ตั้งแต่แรกเกิด แล้วมีการพัฒนาหรือถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยบางอย่างที่ยังไม่ทราบ ให้เจริญไปเป็นเซลล์ไขมัน เส้นผม กระดูกอ่อน จนเกิดเป็นถุงน้ำที่รังไข่ที่เรียกว่า ‘Dermoid cyst’

อาการที่เกิด เช่น ปวดหน่วงๆ ในท้องน้อย/อุ้งเชิงกราน คลำก้อนได้ในท้องน้อย ปวดท้องเฉียบพลันซึ่งมักเกิดจากมีภาวะแทรกซ้อนของโรคนี้ เช่น เกิดการบิดขั้ว (Twisted ovarian cyst) หรือมีการแตกของถุงน้ำ (Ruptured ovarian cyst) หรือมีการติดเชื้อในถุงน้ำ ซึ่งเมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ทำให้ต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดด่วน

เป็นซีสต์ของผิวหนังที่พบได้บ่อยที่สุด มีลักษณะเป็นก้อนซีสต์ที่มีสารสีขาวคล้ายชีส/เนยหรือไขมันอยู่ภายใน แท้จริงแล้วชีส/เนยนี้ไม่ได้มาจากต่อมไขมันแต่อย่างใด แต่เกิดมาจากเซลล์ผิวหนังชั้นนอก (Epidermal cell) ที่ฝังตัวลงในผิวหนังชั้นหนังแท้แล้วผลิตสารเคอราติน (Keratin) สะสมจนเป็นซีสต์ขึ้น

ซีสต์ไขมันผิวหนังจะมีลักษณะมองเห็นและคลำได้เป็นก้อนกลม ขอบเรียบ สีเดียวกับผิวหนัง ไม่มีอาการ ก้อนซีสต์มีได้หลายขนาด ตั้งแต่เป็นมิลลิเมตรไปจนถึงเป็นหลายๆเซนติเมตร อาจมีก้อนเดียวหรือหลายๆ ก้อน ก้อนสามารถจับให้เคลื่อนไปมาได้เล็กน้อย พบได้ทุกบริเวณของผิวหนัง ทั้งใบหน้า หนังศีรษะ แขนขา ลำตัว และอวัยวะเพศ อาจพบรูเปิดจากก้อนมีสารภายในสีขาวคล้ายชีส/เนย มีกลิ่นเหม็น